“สิงห์บลูส์” ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ทำผลงานได้ตามเป้าหลังได้ เบน ชิลเวลล์ ซัดประตูชัยช่วงท้ายครึ่งแรก และได้ เอดูอาร์ เมนดี้ โชว์เซฟอีกนับไม่ถ้วนพาทีมบุกเชือด “เดอะ บีส์” 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 19 คะแนนทวงจ่าฝูงคืนสำเร็จ ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายประจำวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่สนาม เบรนท์ฟอร์ด คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม เป็นการพบกันของ โธมัส แฟร้งค์ กุนซือ “เดอะ บีส์” เบรนท์ฟอร์ด พาทีมน้องใหม่โลดแล่น 7 เกมแรกอย่างสง่างาม ทางด้าน โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก
ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรก เกมเดินมาถึง นาทีที่ 17 รูปเกมอึดอัดเป็น “สิงห์บลูส์” ครองเกมบุกเข้าใส่ตามคาดทักทายครั้งแรกจากลูกฟรีคิกของ โรเมลู ลูกากู วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายแต่ยังไม่ดีบอลเหินข้ามคานหลุดเสาแรกออกไป นาทีที่ 20 เบรนท์ฟอร์ด ตอบโต้บ้างจากบอลทางขวาของ มาเทียส ยอร์เกนเซ่น สอดขึ้นมาครอสเข้ากรอบ 6 หลามาตกใส่หัว อีแวน โทนี่ย์ โขกไปติดหลัง เทรวอห์ ชาโลบา เด้งเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้ นาทีต่อมา เจ้าถิ่น พลาดโอกาสทอง จากบอลยาวทางขวาทิ้งเข้าเขตโทษ คริสเตียน นอร์การ์ด ขยับมาโขกตั้งคืนให้ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ตั้งเท้าแปด้วขวากระดอนพื้นชนเสาเด้งออกมา จากจังหวะต่อเนื่อง เชลซี สวนคืนทันควัน ติโม แวร์เนอร์ กระชากขึ้นมาทางซ้ายได้ช่องปาดเข้ากรอบ 6 หลาโค้งมาหา โรเมลู ลูกากู ชาร์จด้วยซ้ายผ่านมือ ดาบิด ราย่า ตุงตาข่ายเสียดายโดนจับล้ำหน้า นาทีที่ 26 จากฟรีคิกระยะอันตรายของ มัตเตโอ โควาซิช วิ่งมาปั่นด้วยขวาบอลแฉลบบล็อคแนวรับ เบรนท์ฟอร์ด ย้อยหวิดเสียบใต้คานเสียดายปลิ้นหลุดออกหลังนิดเดียว ต่อมานาทีที่ 33 เบรนท์ฟอร์ด ได้เสียวบ้างจากความขยันของ คริสเตียน นอร์การ์ด และ แฟร้งค์ ออนเยก้า ปั๊มบอลหลุดมาในเขตโทษเข้าทาง ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ปาดเข้าในลึกไปเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้ นาทีที่ 45 “สิงห์บลูส์” ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะทางขวา เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ตักบอลเข้าเขตโทษถึง โรเมลู ลูกากู เอียงตัวซัดไปแฉลบบล็อคเด้งเข้าทาง เบน ชิลเวลล์ ตะบันด้วยซ้ายผ่านมือ ดาบิด ราย่า ตุงตาข่ายงามหยด หมดครึ่งเวลาแรก เบรนท์ฟอร์ด 0 เชลซี 1
กลับมาต่อเกมครึ่งหลัง 60 นาทีผ่าน “สิงห์บลูส์” เร่งเครื่องไม่หยุด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เก็บบอลดึงจังหวะแทงเข้าเขตโทษเกือบถึง ติโม แวร์เนอร์ แต่ต้องชม มาเทียส ยอร์เกนเซ่น ตามมาช่วยสกัดช่วยเอาไว้ได้ทัน 9 นาทีต่อมาคราวนี้เป็น ติโม แวร์เนอร์ สอดมารับบอลในเขตโทษแหวกได้ช่องซัดไปบล็อคแนวรับ เบรนท์ฟอร์ด ลอยมาเข้าทาง โรเมลู ลูกากู ตามซ้ำจ่อๆระยะไม่ถึง 5 หลาหลุดข้ามคานเหลือเชื่อ นาทีที่ 73 เจ้าถิ่น หวิดได้ประตูตีเสมอจากบอลทุ่มไกลทางขวาย้อยมาเข้าหัว เอธาน พินน็อค โขกชงเข้าในถึง อีแวน โทนี่ย์ ตวัดตามน้ำด้วยขวาไปติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ ตบทิ้งไว้ได้เหลือเชื่อ 2 นาทีต่อมา เบรนท์ฟอร์ด เริ่มทำได้ดีกว่าจากจังหวะชุลมุนในเขตโทษบอลมาเข้าทาง ไบรอัน เอ็มเบวโม่ สอดมาเก็บตกหักข้อด้วยซ้ายผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ ไปชนเสาแรกเด้งออกมา ท้ายเกมแฟน “เดอะ บีส์” หวิดได้เฮ มาร์คัส ฟอร์ส หลุดเดียวสอดมารับบอลก่อนซัดไปติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ มาเข้าทาง คริสเตียน นอร์การ์ด แต่งหาช่องยกพุ่งหาปากประตูติด เทรวอห์ ชาโลบา ตามมาเคลียร์จากบนเส้น ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+2 เจ้าถิ่น ส่งท้ายจากจังหวะโยนทางซ้ายบอลลึกมาเสาไกลถึง คริสเตียน นอร์การ์ด ทิ้งตัวจักรยานอากาศหวิดเสียบใต้คานติดปลายมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ปัดทิ้งข้ามคานช่วยเอาไว้ได้ หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เบรนท์ฟอร์ด เปิดบ้านแพ้ เชลซี 0-1
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง
เบรนท์ฟอร์ด : ดาบิด ราย่า (GK), มาเทียส ยอร์เกนเซ่น, ปอนตุส แยนส์สัน, เอธาน พินน็อค, เซร์กี้ กายอส (ซามาน ก๊อดดอส น.72), มาเทียส เยนเซ่น, คริสเตียน นอร์การ์ด, แฟร้งค์ ออนเยก้า (มาร์คัส ฟอร์ส น.67), ริโก้ เฮนรี่, ไบรอัน เอ็มเบวโม่, อีแวน โทนี่ย์
เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ (GK), เทรวอห์ ชาโลบา, อันเดรส คริสเตนเซ่น, มาล็อง ซาร์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (รีซ เจมส์ น.89), เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มัตเตโอ โควาซิช (เมสัน เมาน์ต น.65), รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เบน ชิลเวลล์, ติโม แวร์เนอร์, โรเมลู ลูกากู (ไค ฮาแวร์ต น.77)