ซาก้า เฉิดฉาย! ซัดสองลูกพาอังกฤษถล่มโหด อิหร่าน เปิดตัวบอลโลก

สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล

ศึกฟุตบอลโลก 2022 นัดเปิดสนามประจำคืนวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เกมนี้เป็นการพบกันของ อังกฤษ ที่มีพร้อมตัวจริงตามคาดทั้ง 11 คน ในขณะที่ อิหร่าน ก็มี เมห์ดี้ ตาเรมี่ ดาวเตะจาก เอฟซี ปอร์โต้ นำทัพในครั้งนี้

เกมครึ่งแรก นาทีที่ 8 แฮร์รี้ เคน เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษโดยทาง อาลีเรซ่า เบรันวานด์ ออกมาปัดเปลี่ยนทางไปที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ วิ่งเติมขึ้นมายิงสวนแต่บอลไปติดข้างตาข่าย

นาที 30 บูคาโย่ ซาก้า เปิดบอลเรียดไปทางเสาแรกให้ เมสัน เมาท์ วิ่งสอดขึ้นมายิงยัดเสาแรก แต่ก็ไปเข้าข้างตาข่ายอีกที

นาที 33 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ มีจังหวะวิ่งสอดขึ้นมาโขกบอลจากลูกเตะมุมฝั่งขวา แต่บอลกลับชนคานไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 35 อังกฤษ ก็ออกนำได้สำเร็จ ลุค ชอร์ เปิดบอลไปที่กลางประตูโดยมี จู๊ด เบลลิงแฮม เบียดชิงจังหวะขึ้นโขกส่งบอลเข้าประตูไป อังกฤษ นำ 1-0

นาที 43 อังกฤษ นำห่างเป็น 2-0 จากลูกเตะมุม แม็กไกวร์ ขึ้นโหม่งชงไปให้ บูคาโย่ ซาก้า วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยมไปอย่างสวยงาม

นาทีทดเจ็บ แฮร์รี่ เคน ได้บอลจากทางฝั่งขวาก่อนที่จะหาช่องว่างเปิดกลับเข้าไปในกรอบเขตโทษที่มี ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งมาชาร์จบอลเข้าประตูไป อังกฤษ นำห่างไปเป็น 3-0

จบครึ่งเวลาแรก อังกฤษ นำ อิหร่าน อยู่ 3-0

ครึ่งหลังเกมเริ่มมานาทีที่ 62 อังกฤษ ก็นำห่างไปอีก บูคาโย่ ซาก้า ได้บอลจากทางฝั่งขวาแล้วลากตัดเข้าในก่อนจะปั่นด้วยซ้ายอีกครั้ง แต่คราวนนี้บอลติดแฉลบเข้าประตูไป ทัพสิงโตคำราม นำห่างเป็น 4-0

นาทีที่ 65 อิหร่าน อาศัยจังหวะโต้กลับไวแล้ว อาลี กลอลิซาเดห์ จ่ายตามช่องให้ เมห์ดี้ ตาเรมี่ วิ่งหลุดเข้าไปซัดเป็นประตู สกอร์ตามมาเป็น 1-4

นาทีที่ 71  อังกฤษ นำหนีไปอีกเป็น 5-1 แฮร์รี่ เคน จ่ายบอลทำทางไปให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งหลุดเดี่ยวแล้วแปด้วยซ้ายเข้าประตูไป

นาทีที่ 90 คัลลั่ม วิลสัน มีจังหวะพาบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่เลือกที่จะจ่ายย้อนกลับไปให้ แจ็ค กรีลิช ที่วิ่งเติมขึ้นมายิงเข้าไปไม่พลาด อังกฤษ นำ 5-1

นาทีทดเจ็บ อิหร่านมาได้ประตูอีกลูกจากจังหวะจุดโทษ ซึ่งเป็นทาง เมห์ดี้ ตาเรมี่ ที่รับหน้าที่สังหารยิงเข้าไปเป็น 2-6

จบเกมการแข่งขัน อังกฤษ เอาชนะ อิหร่าน ไปได้แบบสบายเท้า 6-2

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

อังกฤษ (4-2-3-1)  : จอร์แดน พิคฟอร์ด – คีแรน ทริปเปียร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (เอริค ดายเออร์ น.70), ลุค ชอว์ – เดแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิงแฮม – ราฮีม สเตอร์ลิง (แจ็ค กรีลิช น.70), เมสัน เมาท์ (ฟิล โฟเด้น น.71), บูคาโย่ ซาก้า (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.70) – แฮร์รี่ เคน (คั่ลลัม วิลสัน น.76)

อิหร่าน (4-3-3) : อาลีเรซ่า เบรันวานด์ (ฮอสเซน ฮอสเซนี่ น.18) – ซาเดก โมฮารามี่, มอร์เตซ่า ปูราลิกานจี, มายิด ฮอสเซนี่, มิลาด โมฮัมมาดี้, รูซเบห์ เชสมี่ (โมฮัมหมัด คานาอานี่ น.46) – อาห์หมัด นูรอลลาฮี , เอห์ซาน ฮาจซาฟี่, อลิเรซา จาฮานบัคห์ช (อาลี กลอลิซาเดห์ น.46), อาลี คาริมี่ (เซอิด เอซาโตลาฮี น.46), ซาเดคห์ โมห์ฮาร์รามี่ – เมห์ดี้ ตาเรมี่