ซาลาห์,ฟีร์มีโน่ควงซัดเบิ้ล ลิเวอร์พูลโหดจัดบุกขยี้ปอร์โต้คารังมังกร

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เก็บ 6 คะแนนเต็ม จากการลงแข่ง 2 นัด หลังบุกถล่ม ปอร์โต้ กระจุย 5-1 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำคนเดียว 2 ตุง เช่นเดียวกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ลงเป็นตัวสำรองกลางครึ่งหลัง ขณะที่ ซาดิโอ มาเน่ ก็มีสกอร์เช่นกัน 

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนาม เอสตาดิโอ โด ดราเกา คืนวันอังคารที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าถิ่น ปอร์โต้ หวังเก็บชัยชนะนัดแรกในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ เปิดบ้านพบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่นัดนี้ไม่มี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หมายมั่นปั้นมือที่จะบุกมาคว้าชัยที่ โปรตุเกส เพื่อสะสมคะแนนเป็น 6 แต้ม 

ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรกช่วง 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกแลกกัน แต่ยังไม่มีโอกาสแบบเน้นๆ ทว่า ปอร์โต้ เจอข่าวร้ายอีกแล้ว เมื่อ โอตาวิโอ มีปัญหาบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ คอนไซเซา ส่ง ฟาบิโอ วิเอยร่า ลงไปแทน นาทีที่ 18 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ ยิงไปติดเซฟ ดิโอโก้ คอสต้า บอลไปเข้าทาง ไซดู ซานูซี่ ซึ่งจับบอลไม่ดี และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ใช้เท้าซ้ายแตะบอลเข้าไป  หลังจากนั้น “หงส์แดง” เดินเกมรุกต่อเนื่อง และนาทีที่ 26 เกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะที่ ดิโอโก้ โชต้า ได้ซัดเต็มๆ แต่ คอสต้า ปัดปลายนิ้วบอลข้ามคานไป นาทีที่ 38 ปอร์โต้ ได้ลุ้นบ้าง เมื่อ หลุยส์ ดิอาซ มีโอกาสยิงเน้นๆ แต่ดันเบาไป ทำให้ อลีสซง เบ็คเกอร์ ล้มตัวรับบอลสบายๆ หลังจากนั้น 4 นาที ลิเวอร์พูล ได้เสียวอีกครั้ง จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลา ที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้ยิงบอลโค้งๆ กำลังจะเสียบใต้คาน แต่ คอสต้า พุ่งปัดออกหลังไปได้ สุดท้ายเจ้าถิ่นก็ไม่รอด “หงส์แดง” ได้ประตูหนีเป็น 2-0 ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก จากการครอสบอลเข้ากลางของ เจมส์ มิลเนอร์ ซึ่งผ่านไปถึง ซาดิโอ มาเน่ ที่แตะบอลเข้าไปเบาๆ หมดครึ่งเวลาแรก ปอร์โต้ ตามหลัง ลิเวอร์พูล 0-2

กลับมาต่อครึ่งหลัง ปอร์โต้ โจมตีก่อนด้วยความคึกคัก แต่นาทีที่ 49 เป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้ลุ้น จากการขึ้นมาซัดด้วยซ้ายของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ คอสต้า หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีกครั้ง จากการเล่นไม่รู้กันของนักเตะ ปอร์โต้ ซึ่ง โชต้า วิ่งเข้าฉกบอล แต่ไม่ผ่าน คอสต้า อีกแล้ว ลิเวอร์พูล บุกเป็นพายุ นาทีที่ 54 ได้ลุ้นอีกครั้ง จากการยิงของ โชต้า แต่ไม่ผ่านมือ คอสต้า อีกเช่นเคย กระนั้นนาทีที่ 60 นำขาดเป็น 3-0 สำเร็จ จากจังหวะที่ โจนส์ ได้พาบอลเข้ากลาง ก่อนผ่านบอลเน้นๆ ให้ ซาลาห์ จบสกอร์อย่างเฉียบขาด ซึ่งถือเป็นลูกที่สองของดาวเตะชาวอียิปต์ในเกมนี้อีกด้วย นาทีที่ 62 ปอร์โต้ เกือบได้ประตูตีไข่แตก จากการสลับเท้ายิงของ วิตินญ่า แต่ อลีสซง รับเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และนาทีต่อมา ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูเพิ่มอีก จากการยิงของ โชต้า แต่บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 75 เจ้าถิ่นตีไข่แตก 1-3 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ วิเอยร่า หยอดบอลเข้ากลาง และเป็น เมห์ดี้ ทาเรมี่ หัวหอกชาวอิหร่าน พุ่งโหม่งเข้าไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแค่ 2 นาที “หงส์แดง” หนีไปไกลเป็น 4-1 จากจังหวะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ถึงบอลก่อน คอสต้า ที่ออกมาไม่ดี ก่อนส่งบอลค่อยๆ ไหลเข้าประตูไป ถึงแม้ คอสต้า ตามไปปัดออกมา แต่ไม่ทัน เท่านั้นยังไม่พอ นาทีที่ 83 ลิเวอร์พูล เพิ่มสกอร์เป็น 5-1 จากการยิงซ้ำโล่งๆ ของ ฟีร์มีโน่ แม้ดูเหมือนล้ำหน้า แต่ผู้ตัดสินเช็ค VAR เรียบร้อย ไม่มีปัญหา หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกกระซวกยักษ์ใหญ่แดนฝอยทอง 5-1 เก็บ 6 คะแนน จากการลงแข่ง 2 นัด 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง

ปอร์โต้ ดิโอโก้ คอสต้า (GK), โฮซุส โคโรน่า, ฟาบิโอ คาร์โดโซ่, อีบัน มาร์กาโน่, ไซดู ซานูซี่ (เวนเดลล์ น.56), มาเตอุส อูริเบ (วิตินญ่า น.56), แซร์โจ้ โอลิเวยร่า (เปเป้ น. 67), โอตาวิโอ (ฟาบิโอ วิเอยร่า น.14), อันโตนิโอ มาร์ติเนซ (มาร์โค กรูยิช น.46), หลุยส์ ดิอาซ, เมห์ดี้ ทาเรมี่ 

ลิเวอร์พูลอลีสซง เบ็คเกอร์ (GK), เจมส์ มิลเนอร์ (โจ โกเมซ น. 66), โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม) (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.73), เคอร์ติส โจนส์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น. 67), ซาดิโอ มาเน่ (ทาคุมิ มินามิโนะ น. 67), ดิโอโก้ โชต้า (ดิว็อก โอริกี้ น.88)