“ตราหมี” ฟอร์มสุดโหด!! ยิงรัวท้ายเกมชิวตั๋ว ชปล เข้าสู่รอบต่อไป

การแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบงกลุ่ม (นัดสุดท้าย) กลุ่ม บี ระหว่าง ปอร์โต้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอตเลติโก มาดริด เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-4-2 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 4-4-2 

เกมเริ่มมาได้ 13 นาที ข่าวร้าย “ตราหมี” ต้องเสียตัวหลัก 

เนื่องจาก หลุยส์ ซัวเรส กองหน้าคนสำคัญมีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ไม่มีทางเลือกต้องเปลี่ยนเอา มาเธอุส คุนญ่า ลงมาเล่นแทน

นาทีที่ 22 แอตเลติโก มาดริด พลาดโอกาสทอง

จากบอลทางฝั่งซ้ายของ ยานนิค การ์ราสโก้ พาบอลลุยเข้าเขตโทษโยกได้ช่องปาดบอลเข้ามาถึง โตมาส์ เลอมาร์ สอดมาชาร์จไปติดเท้า ดิเอโก้ คอสต้า บอลไหลมาเสาไกลเข้าทาง มาร์กอส ยอเรนเต้ ยิงซ้ำอีกครั้งบอลยังไปติดเซฟออกหลังไปหวุดหวิด

นาทีที่ 26 ปอร์โต้ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง

จากจังหวะของ มาร์โก กรูยิช พาบอลขึ้นมาก่อนจะโยกหนี โรดรีโก้ เด ปอล ได้ช่องกดด้วยขวาระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งบดเรียดพื้นไปเข้ามือ ยาน โอบลัค รับเอาไว้ได้ไม่ยาก

นาทีที่ 32 ปอร์โต้ ลุยขึ้นมาได้น่ากลัว

จากจังหวะของ หลุยส์ ดิอาซ ขยับมารับบอลในเขตโทษได้ช่องยิงเร็วผ่านแนวรับ แอต.มาดริด ไปติดเซฟ ยาน โอบลัค ปัดออกมาเกือบเข้าทาง เมห์ดี้ ทาเรมี่ แต่ต้องชม มาร์กอส ยอเรนเต้ ตามมาเคลียร์ช่วยทีมไว้ได้ทันเวลา

นาทีที่ 45 ปอร์โต้ เกือบมาได้ประตูออกนำ

จากจังหวะโหม่งบอลผิดเหลี่ยมของ โตมาส์ เลอมาร์ บอลย้อยเกือบเข้าประตูตัวเอง ก่อนเป็น มาร์โก กรูยิช สอดมาได้ยิงหน้าเขตโทษแต่ก็ยังไปตรงตัว ยาน โอบลัค รับเอาไว้ได้ไม่ยาก

จบครึ่งเวลาแรก ปอร์โต้ ยังเสมอกับ แอตเลติโก มาดริด อยู่ที่ 0-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ครองบอลได้เหนือกว่า แต่จังหวะเข้าทำเป็น ปอร์โต้ ที่ทำได้ดุดันกว่าแต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 51 ยาน โอบลัค โชว์เซฟช่วยทีม

จากจังหวะสวนกลับ หลุยส์ ดิอาซ กระชากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจ่ายบอลเข้าเขตโทษถึง เมห์ดี้ ทาเรมี่ ยิงตามน้ำแต่บอลยังไปติดเท้า ยาน โอบลัค ล้มตัวเซฟไว้ได้เหลือเชื่อ

นาทีที่ 56 “ตราหมี” ทะยานออกนำจนได้

จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายบอลโค้งเข้าเขตโทษถึง เมห์ดี้ ทาเรมี่ บอลไปแฉลบเสาไกลตกใส่เท้า อองตวน กรีซมันน์ เข้าชาร์จจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไปไม่พลาด แอตเลติโก มาดริด ออกนำ 0-1

นาทีที่ 67 แอต.มาดริด ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน

จากจังหวะของ ยานนิค การ์ราสโก้ เสียท่าไปเหวี่ยงแขนนอกเกมใส่ โอตาวีโอ ผู้ตัดสิน เห็นเหตุการณ์ไม่รอช้าชูใบแดงไล่ออกจากสนามทันที แอต.มาดริด เหลือ 10 คน

นาทีที่ 69 เกมเริ่มเดือด อร์โต้ป เหลือ 10 คนเหมือนกัน 

จากจังหวะของ เวนเดลล์ บอร์เจส ไปยกศอกตั้งใส่คอ มาเธอุส คุนญ่า ร่วงลงไปนอกสนาม ผู้ตัดสิน ไม่ปล่อยผ่านให้ใบแดงโดยตรงไล่ออกไปเช่นกัน ปอร์โต้ เหลือ 10 คนในสนาม

นาทีที่ 90 “ตราหมี” มาได้ประตูย้ำชัยท้ายเกม

จากจังหวะสวนกลับของ อองตวน กรีซมันน์ เก็บบอลได้ก่อนจ่ายทะลุช่องไปให้ อังเคล กอร์เรอา สอดขึ้นมากระชากเข้าเขตโทษยิงผ่าน ดิเอโก้ คอสต้า ตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ แอตเลติโก มาดริด นำห่าง 0-2

นาทีที่ 90+2 แอตเลติโก มาดริด มาได้ประตูปิดกล่อง

จากความขยันของ โรดรีโก้ เด ปอล ไล่ปั๊มฉกบอลจากริมเส้นพาเข้าเขตโทษไหลเข้ามาให้ อองตวน กรีซมันน์ ยิงไปติดบล็อคลอยเข้าทาง เด ปอล ตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือ แอตเลติโก มาดริด ทิ้งห่าง 0-3

นาทีที่ 90+4 เจ้าถิ่น มาได้ประตูปลอบใจ 

จากจังหวะของ มาริโอ เอร์โมโซ่ ไปเสียเหลี่ยมเข้าสกัดแข้ง ปอร์โต้ ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน เป่าให้เป็นจุดโทษทันทีก่อนจะเป็น แซร์จิโอ โอลิเวียร่า รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ปอร์โต้ ไล่ขึ้นมา 1-3

จบเกม ปอร์โต้ แพ้ให้กับ แอตเลติโก มาดริด ไป 1-3 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่าทำให้เกมนี้ แอตเลติโก มาดริด เอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ แอตเลติโก มาดริด มี 7 คะแนน อยู่อันดับที่ 2 และทางด้าน ปอร์โต้ มี 5 คะแนน อยู่อันดับที่ 3