ทูเคิ่ลพา “สิงห์บลูส์” ไล่อัด “ราชันชุดขาว” ทะลุเข้าสู่รอบชิง ชปล.

การแข่งขันในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรอง นัดสอง ระหว่าง เชลซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 3-1-4-2 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 3-4-1-2

เริ่มเกมมาเข้านาทีที่ 11 “ราชันชุดขาว” ได้ทักทายก่อน

จากจังหวะของ ลูก้า โมดริด จ่ายบอลเข้ากลางให้ โทนี่ โครส วิ่งมาซัดนอกกรอบแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ เซฟเอาไว้ได้ไม่ยาก

นาทีที่ 12 “สิงห์บลูส์” ได้ตอบโต้กลับมาบ้าง

จากจังหวะของ จอร์จินโญ่ ไหลบอลมาให้ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ วิ่งมาอัดระยะประมาณ 35 หลา บอลพุ่งแรงจน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ต้องตัดสินใจทุบออกไป 

นาทีที่ 17 ลูก้า โมดริช ลองส่องไกล

จากจังหวะของ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ จ่ายเข้ากลางให้ ลูก้า โมดริช กระชากบอลหนีก่อนได้ช่องกดด้วยขวาบอลพุ่งทะลุแนวรับสิงห์บลูส์แต่ยังไปตรงตัวของ เอดูอาร์ เมนดี้ รับไว้ได้สบาย

นาทีที่ 19 ติโม แวร์เนอร์ เกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ด

จากจังหวะของ เมสัน เมาน์ท จ่ายบอลออกซ้ายให้ เบน ชิลเวลล์ แตะบอลขึ้นหน้าก่อนปาดเรียดไปหน้าประตูให้ ติโม แวร์เนอร์ เข้าชาร์ทจ่อ ๆ ส่งบอลซุกก้นตาข่าย แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตูเนื่องจาก แวร์เนอร์ ล้ำหน้าไปก่อน

นาทีที่ 26 เป็นโอกาสขึ้นนำของ เรอัล มาดริด 

จากจังหวะของ กาเซมีโร่ จ่ายบอลยัดเข้ากลางให้ โทนี่ โครส แต่จับบอลไม่อยู่เลยไปเข้าทาง คาริม เบนเซม่า พลิกตัวยิงด้วยขวาบอลกำลังจะเบียดเสาอยู่แล้วแต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 28 “สิงห์บลูส์” ชิงขึ้นนำไปก่อนจนได้

จากจังหวะของ ก็องเต้ ทำชิ่งกับ ติโม แวร์เนอร์ ก่อนที่ ก็องเต้ จะวิ่งไปรับแล้วจ่ายบอลให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ หลุดเข้าไปชิพบอลข้ามตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ ไปบอลยังพุ่งไปชนคาน บอลกระดอนออกเข้าทาง ติโม แวร์เนอร์ โขกซ้ำเข้าไปไม่เหลือ เชลซี ออกนำ 1-0

นาทีที่ 36 เรอัล มาดริด โหมบุกหวังทวงประตูคืน

จากจังหวะของ ลูก้า โมดริช เปิดบอลมาหน้าประตูให้ คาริม เบนเซม่า ได้ขึ้นโหม่งบอลกำลังย้อยเข้าประตู แต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ยังบินปัดมือเดียวออกหลังไปหวุดหวิด

จบครึ่งแรก เชลซี ขึ้นนำ เรอัล มาดริด 1-0 (สกอร์รวมสองนัด เชลซี นำ เรอัล มาดริด 2-1) รูปเกมถือว่าทั้งสองทีมยังเปิดเกมสู้กันได้อย่างสูสี ผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่ตลอด  แต่เจ้าบ้านมีความเฉียบคมมากกว่าชิงทำประตูออกนำไปได้ก่อน ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 47 เชลซี ได้ลุ้นเม็ดที่สอง 

จากจังหวะของ เมสัน เมาน์ท เปิดบอลเข้าไปให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ ได้ขึ้นโหม่งบอลหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ไปแล้ว แต่ยังแรงเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 51 เจ้าถิ่นได้บุกกดดันต่อเนื่อง

จากจังหวะลูกฟรีคิกของ เบน ชิลเวลล์ เปิดบอลเข้ามาให้ ติอาโก้ ซิลวา ชิงขึ้นโหม่งแต่บอลยังหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาไม่ถึงนาที ติโม แวร์เนอร์ จ่ายบอลออกขวาให้ เมสัน เมาน์ท หลุดเข้าไปยิงมุมแคบแต่บอลยังเหินข้ามคานออกไปอีกครั้ง

นาทีที่ 66 เชลซี บุกได้น้ำได้เนื้อกว่า

จากจังหวะของ ติโม แวร์เนอร์ พาบอลขึ้นมาก่อนไหลมาให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หลุดเข้าไปทางซ้ายแต่เจ้าตัวช้าไปยิงไปติดบล็อค นาโช่ แฟร์นานเดซ ที่ตามมาขวางไว้ได้หวุดหวิด

นาทีที่ 85 เชลซี มาได้ประตูปิดกล่อง

จากจังหวะของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ตัดบอลได้แล้วไหลให้ พูลิซิช หลุดเข้าไปทางขวาก่อนดึงจังหวะหลบ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ที่พยายามออกมาขวางก่อนจ่ายเข้าไปให้ เมสัน เมาน์ท ยิงง่าย ๆ เข้าไปไม่เหลือ เชลซี นำห่าง 2-0 

จบเกม เชลซี เอาชนะ เรอัล มาดริด ไปได้ 2-0 (สกอร์รวมสองนัด เชลซี ชนะ เรอัล มาดริด 3-1) เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ที่ทำได้เหนือกว่าแต่ยังขาดในจังหวะสุดท้ายที่เจาะแนวรับเจ้าบ้านไม่ได้ กลายเป็น เชลซีที่บุกน้อยกว่าชิงทำประตูและเอาชนะไปใด้ในที่สุด ส่งผลให้ เชลซี ทะลุเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศดวลกับ แมนฯซิตี้ ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้

เกมนัดถัดไปของ เชลซี พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2021 และทางด้าน เรอัล มาดริด พบกับ เซบีย่า ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2021