ทูเคิ่ลร้อนแรงพาลูกทีมบุกปราบ “เรือใบสีฟ้า” คาถิ่น

การแข่งขันในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 3-1-4-2 และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 3-4-2-1

เขี่ยบอลเริ่มมาได้ 4 นาที  แมนฯซิตี้ ได้โอกาสทักทายก่อน

จากจังหวะของ เฟร์ราน ตอร์เรส กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนยิงเสาแรกแต่หลักไม่ดีโดน อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เบียดทำให้ยิงหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

นาทีที่ 8 เจ้าบ้านยังบุกกดดันต่อเนื่อง

จากจังหวะของ ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้ยงบอลแหวกมาหน้ากรอบก่อนบอลมาเข้าทาง กาเบรียล เชซุส ซัดไปติดบล็อค แต่บอลยังกระดอนไปเข้าทาง แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายพุ่งเรียดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 32 “สิงห์บลูส์” ตอบโต้ขึ้นมาได้จบสกอร์

จากจังหวะของ มาร์กอส อลอนโซ่ เปิดบอลไปถึง รีซ เจมส์ กึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้ากรอบให้ ติโม แวร์เนอร์ ยิงส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อนทำให้ พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 43 เอแดร์ซอน ยังโชว์เซฟเอาไว้ได้

จากจังหวะของ บิลลี่ กิลมอร์ จ่ายบอลมาให้ ฮาคิม ซิเย็ค ได้ปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งไปเสาไกล แต่ เอแดร์ซอน โมราเอส ยังพุ่งปัดออกไปได้ ก่อนที่ มาร์กอส อลอนโซ่ จะเก็บบอลได้แล้วไหลให้ รือดิเกอร์ วิ่งมาอัดเต็มข้อบอลเหินคานออกไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 44 “เรือใบสีฟ้า” ยิงเข้ากรอบหนแรก 

จากความผิดพลาดของ อันเดรียส คริสเตนเซ่น กะจังหวะบอลไม่ดีโดนโดน กาเบรียล เชซุส เบียดแย่งบอลไปแล้วปาดมาให้ กุน อเกวโร่ จับบอลจังหวะแรกก่อนบอลมาเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งมาซัดจังหวะเดียวส่งบอลตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ 1-0

นาทีที่ 45+3 เอดูอาร์ เมนดี้ เซฟประตูสำคัญช่วยทีม

จากจังหวะของ บิลลี่ กิลมอร์ ไปทำฟาวล์กระแทกใส่ กาเบรียล เชซุส ทางด้านหลังล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่นทันที แต่ เซร์คิโอ อเกวโร่ รับหน้าที่สังหารแต่กลับยิงไม่ดีพยายามชิพบอล แต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ยังไม่หลงรับบอลกลางประตูไว้ได้สบาย

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ เชลซี ไปก่อน 1-0 ทั้งสองทีมยังสู้กันได้อย่างสูสีแต่จะเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าสามารถกุมความได้เปรียบชิงทำประตูออกนำไปได้ก่อน ต้องมาติดตามกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 51 กุน อเกวโร่ พยายามจะแก้ตัว

จากจังหวะของ กุน อเกวโร่ พาบอลลุยขึ้นมาก่อนได้ช่องลองกดด้วยขวานอกกรอบแต่บอลก็ยังไปเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้ รับเอาไว้ได้ไม่ยาก

นาทีที่ 60 เชลซี เร่งเครื่องหวังทวงประตูตีเสมอ

จากจังหวะของ มาร์กอส อลอนโซ่ เติมเกมขึ้นมาพาบอลแหวกเข้ามาในเขตโทษก่อนจ่ายมากลางประตูให้ คริสเตียน พูลิซิช ซัดเต็มข้อบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 63 เชลซี มาได้ประตูไล่ตีเสมอสำเร็จ 

จากจังหวะของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ขึ้นบอลมาทางฝั่งขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ฮาคิม ซิเย็ค จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนกดด้วยซ้ายบอลพุ่งเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม เชลซี ไล่ตีเสมอ 1-1

นาทีที่ 79 เชลซี พลาดโอกาสพลิกแซง

จากจังหวะของ จอร์จินโญ่ จ่ายบอลทะลุช่องมาให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้จังหวะซัดส่งบอลพุ่งเข้าก้นตาข่ายไปไม่เหลือ แต่ผู้ตัดสินยังเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน

นาทีที่ 81 เจ้าบ้านเกมรุกหายไปดื้อ ๆ

จากจังหวะบอลขึ้นทางฝั่งขวาของ รีซ เจมส์ เปิดบ้านเรียดไปหน้าปากประตูให้ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย วิ่งมาซัดบอลเข้าซุกก้นตาข่ายเข้าไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินได้เช็ก วีเออาร์ และยืนยันว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนทำให้ เชลซี พลาดโอกาสขึ้นนำอีกหน

นาทีที่ 90+2 มาร์กอส อลอนโซ่ ฮีโร่ซัดประตูชัย

จากจังหวะของ ติโม แวร์เนอร์ ปาดบอลเข้ามากลางประตูให้ มาร์กอส อลอนโซ่ วิ่งมากดด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ เอแดร์ซอน เสียบตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ เชลซี พลิกนำ 1-2

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ให้กับ เชลซี ไป 1-2 เปอร์เซ็นต์การครองบอลกลายเป็นครึ่งหลังเชลซีทำได้เหนือกว่าต้องยกเครดิตให้ ทูเคิ่ล กุนซือ “สิงห์บลูส์” ที่แก้เกมได้ถูกจุดทำให้ครึ่งเวลาหลังเป็นเกมของ เชลซีและสามารถพลิกเอาชนะไปจนได้ ส่งผลให้ เชลซี มี 64 คะแนน อยู่อันดับ 3 และทางด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี 80 คะแนน อยู่อันดับ 1 

เกมนัดถัดไปของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ นิวคาสเซิ่ล ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2021 และทางด้าน เชลซี พบกับ อาร์เซน่อล ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2021

สนับสนุนบทความข่าวฟุตบอลโดย “บาคาร่าออนไลน์”