บิ๊กแมตท์ประจำสัปดาห์สุดเดือด!! สเปอร์ส ไล่เจ๊าท้ายเกมไป 2-2

การแข่งขันในเกมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง เชลซี ลงสนามพบกับ สเปอร์ส โดยเกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 3-4-1-2 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 3-4-1-2

เกมเริ่มมาได้ 3 นาที สเปอร์ส ได้ทักทายก่อน

จากจังหวะลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาของ ซน ฮึง-มิน เปิดบอลโค้งข้ามกำแพงหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 15 เชลซี ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง

จากจังหวะของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พาบอลขึ้นมากลางประตูก่อนจะได้โอกาสยิงเน้น ๆ แต่บอลพุ่งไปติดบล็อคแนวรับสเปอร์สเด้งหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 19 เจ้าบ้านได้เสียวอีกครั้งเกือบได้ลุ้นประตูขึ้นนำ 

จากจังหวะของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จ่ายบอลตามช่องไปให้ สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปก่อนตอกส้นย้อนหลังมาให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ยิงแฉลบปลายมือ อูโก้ โยริส หลุดเสาออกไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 20 เชลซี ทะยานออกนำไปได้ก่อน

จากจังหวะลูกเตะมุมของ มาร์ค คูคูเรย่า เปิดบอลโค้งมาเสาไกลให้ คาลิดู คูลิบาลี่ วอลเลย์ด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูแรกของเจ้าตัว เชลซี ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 22 สเปอร์ส เกือบได้ลุ้นตีเสมอ

จากจังหวะของ เคน จ่ายบอลไปให้ ไรอัน แซสเซยง ที่สอดขึ้นมาก่อนจะยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ยังทุบทิ้งออกหลังไปได้หวุดหวิด

นาทีที่ 27 คูลิบาลี่ พลาดโอกาสทอง

จากจังหวะของบอลวางเข้าเขตโทษมาให้ ติอาโก้ ซิลวา โหม่งเช็ดไปเสาสองบอลถึง คูลิบาลี่ ได้โอกาสหวดเต็มข้อบอลเหินข้ามคานออกไปแบบหมดลุ้น

นาทีที่ 45 เชลซี ยังโหมบุกกดดันต่อเนื่อง

จากจังหวะของ จอร์จินโญ่ เปิดบอลโค้งมาเสาไกลถึง รูเบน ลอฟตัส-ชีค เติมขึ้นมาพยายามพุ่งเข้ามาโหม่งแต่ไม่ถึงบอลเลยออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

จบครึ่งแรก เชลซี ออกนำ สเปอร์ส ไปได้ก่อน 1-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ดุดันกว่า แต่ก็ยังขาดความเฉียบคมทำให้สกอร์ยังไม่ห่างต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 48 “ไก่เดือยทอง” เปิดเกมแลกตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง

จากบอลทางฝั่งขวาของ แฮร์รี่ เคน วางบอลเข้าเขตโทษไปให้ ซน ฮึง-มิน ใช้ความเร็วสอดมาได้ยิงเน้น ๆ เสียดายโดนไม่ดีบอลไปติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ ปิดมุมไว้ได้ทัน

นาทีที่ 54 เชลซี ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง

จากจังหวะของ เมสัน เมาท์น ขยับมารับบอลทางซ้ายตั้งป้อมเปิดเข้าเขตโทษลึกเกือบเสียบใต้คานโชคดี อูโก้ โยริส ยังถอยมาปัดข้ามคานออกไปได้นิดเดียว

นาทีที่ 61 สเปอร์ส เร่งเครื่องหวังทวงประตูคืน

จากจังหวะของแนวรับจ่ายครึ่งสนามขึ้นหน้าให้ แฮร์รี่ เคน หลุดกับดักล้ำหน้ากระชากเข้าเขตโทษก่อนหักข้อด้วยขวาหนีมือ เอดูอาร์ เมนดี้ หลุดเสาไกลออกหลังอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 68 สเปอร์ส ไล่ทวงประตูคืนจนได้

จากความผิดพลาดของ จอร์จินโญ่ เล่นยากโดนตัดบอลในเขตโทษก่อนเป็น เบน เดวิส ไหลย้อนตั้งให้ ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก ตะบันด้วยขวาพุ่งผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ซุกก้นตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ สเปอร์ส ไล่มา 1-1

นาทีที่ 78 เชลซี มาฉวยโอกาสพลิกแซงได้อีกครั้ง

จากความผิดพลาดของ สเปอร์ส เสียบอลทางฝั่งซ้ายของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ตามมาเก็บแทงขึ้นมาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ไหลบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาถึง รีซ เจมส์ วิ่งมายิงเข้าไปกลางประตูอย่างสวยงาม เชลซี พลิกแซง 2-1

นาทีที่ 90+6 แฟนบอล สเปอร์ส ได้เฮสนั่น

จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ อีวาน เปริซิช ปั่นบอลด้วยซ้ายโค้งเข้ากรอบ 6 หลาไปตกใส่หัว แฮร์รี่ เคน โหม่งเปลี่ยนทางบอลไปแฉลบขา รีซ เจมส์ เสียบหน้าต่างเสาสองเข้าไปไม่พลาด สเปอร์ส ไล่มา 2-2

จบเกม เชลซี เสมอกับ สเปอร์ส ไป 2-2 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างโอกาสเข้าทำได้ดุดันกว่า แต่กลายเป็นสเปอร์สที่เฉียบคมกว่าพังประตูไล่เจ๊าบุกมาแบ่งแต้มไปได้สำเร็จ