ประวัติศาสตร์หน้าใหม่!! เรือใบสีฟ้า ทะลุเข้ารอบชิง ชปล ครั้งแรก

การแข่งขันในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรอง นัดสอง ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-4-2  และทางด้านทีมเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3

เกมเริ่มมาได้เพียง 7 นาที “เรือใบสีฟ้า” เกือบต้องมาเสียจุดโทษอย่างรวดเร็ว

จากจังหวะแฮนด์บอลของ ซินเชนโก้ แต่ผู้ตัดสินได้รับสัญญาณจากวีเออาร์ แล้ววิ่งไปดูจอมอนิเตอร์ข้างสนาม ปรากฎว่าบอลไปโดนหัวไหล่ของ ซินเชนโก้ ทำให้ผู้ตัดสินกลับคำตัดสินไม่ให้จุดโทษ

นาทีที่ 11 จากเกือบเสียจุดโทษกลับมาได้ประตูขึ้นนำ

จากจังหวะของ เอแดร์ซอน เปิดบอลยาวขึ้นหน้าให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ วิ่งหลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนปาดเรียดมากลางประตูให้ เควิน เดอ บรอยน์ ยิงไปติดบล็อค อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ แต่บอลยังไปเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ยิงซ้ำง่าย ๆ บอลผ่านตัว เกย์ลอร์ นาวาส เข้าไปไม่เหลือ ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ 1-0

นาทีที่ 16 ปารีสฯ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง

จากจังหวะลูกฟรีคิกนอกกรอบระยะประมาณ 25 หลา ก่อนจะเป็น เนย์มาร์ วิ่งมาปั่นบอลไปติดแฟร์นันดินโญ่ที่ยืนกำแพงออกหลังไป และเป็นจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมของ ดิ มาเรีย เปิดเข้ามาให้ มาร์กินญอส ขึ้นโหม่งบอลย้อนไปเสาแรก บอลเลยไปตกบนคานอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 30 เจ้าบ้านตะลุยขึ้นมาหวังทำประตูทิ้งห่าง

จากจังหวะของ อิลคาย กุนโดกัน ไหลบอลมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ แต่งบอลหาช่องก่อนยิงด้วยขวานอกกรอบบอลยังพุ่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 45+1 เกย์ลอร์ นาวาส  ยังยืนตำแหน่งดี

จากจังหวะของ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลก่อนหลุดเข้าไปในเขตโทษยิงมุมแคบแต่ เกย์ลอร์ นาวาส ออกมาปิดเสาแรกได้ก่อนยังใช้เข่าเซฟออกไปหวุดหวิด

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปก่อน 1-0 (สกอร์รวมสองนัด แมนฯซิตี้ นำ 3-1) รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลบุกกดดันได้ดีกว่าแต่ยังสร้างโอกาสเข้าทำได้น้อย ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 54 “เรือใบสีฟ้า” เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สอง

จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ ฟิล โฟเด้น หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่ยังยิงไปติดเซฟ เกย์ลอร์ นาวาส แต่ผู้ตัดสินก็ได้เป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

นาทีที่ 63 เรือใบสีฟ้า ทะยานนำห่างจนได้

จากจังหวะสวนขึ้นมาทางซ้ายของ ฟิล โฟเด้น ลากขึ้นมาก่อนจ่ายมาให้กับ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายคืนมาให้ ฟิล โฟเด้น ปาดเรียดมาเสาไกลให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาแปโล่ง ๆ ส่งบอลซุกก้นตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่าง 2-0

นาทีที่ 69 สถานการณ์ของ เปแอสเช แย่งหนัก ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน

จากจังหวะของ อังเคล ดิ มาเรีย ไปเล่นนอกเกมใส่ แฟร์นันดินโญ่ ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกต้องให้ใบแดงไล่ออกจากสนามไป ทำให้ เปแอสเช ต้องสู้ 10  คน

นาทีที่ 77 ฟิล โฟเด้น เกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ด 

จากจังหวะของ ฟิล โฟเด้น ทำเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะโยกเข้าในแล้วยิงด้วยซ้ายไปทางเสาไกลแต่บอลไปชนโคนเสาด้านนอกออกหลังอย่างน่าเสียดาย

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปได้ 2-0 (สกอร์รวมสองนัด แมนฯซิตี้ ชนะไป 4-1) เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่ง แมนฯซิตี้ ที่ทำได้เหนือกว่าและมีเกมรุกที่ดุดันกว่าสามารถกด เปแอสเช ได้อยู่หมัด ทำให้เกมนี้เรือใบเอาชนะไปได้ไม่ยาก ทะลุเข้าสู่รอบชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกของสโมสร

เกมนัดถัดไปของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ เชลซี ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2021 และทางด้าน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พบกับ แรนส์ ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2021