ประวัติศาสตร์ มาห์เรซเบิ้ลพาแมนซิตี้ อัด เปแอสเช 10 คน ลิ่วชิงชปล.ครั้งแรก

“เรือใบสีฟ้า” ยังอยู่บนเส้นทางลุ้นทริปเปิ้ลแชมป์! หลังงัดฟอร์มสุดยอดไล่อัด ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2-0 ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองฯนัดสอง เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อคืนวันอังคารที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก กลับมาเล่นในบ้านรับการมาเยือนของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รองจ่าฝูงลีก เอิง โดยเกมแรก “เรือใบสีฟ้า” บุกไปเอาชนะมาได้ก่อน 2-1 กุมความได้เปรียบที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้เป็นหนแรกประวัติศาสตร์สโมสร

เปิดฉากครึ่งแรกมา เปแอสเช โหมบุกอย่างหนักชนิดที่ เจ้าบ้านยังตั้งเกมไม่ได้เลย และนาทีที่ 7 “เรือใบสีฟ้า” ต้องมาเสียจุดโทษอย่างรวดเร็วหลังผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลของ ซินเชนโก้ ทว่าหลังได้รับสัญญาณจากวีเออาร์ แล้ววิ่งไปดูจอมอนิเตอร์ข้างสนาม ปรากฎว่าบอลไปโดนหัวไหล่ของ ซินเชนโก้ ทำให้ บียอร์น ไคเปอร์ส ผู้ตัดสินชาวฮอลแลนด์กลับคำตัดสินไม่ให้จุดโทษ จากนั้นนาทีที่ 11 แมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ทันทีใน จากจังหวะที่ เอแดร์ซอน เปิดยาวขึ้นหน้า โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่วิ่งจากแดนตัวเองไม่ล้ำหน้าหลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนปาดเลียดมากลางประตูให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดไปติดบล็อค อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ แต่บอลยังไปเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ซ้ำผ่านตัว เกย์ลอร์ นาวาส เข้าไป นาทีที่ 16 ปารีสฯ มาได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบไม่ถึง 25 หลา ก่อนที่ เนย์มาร์ จะวิ่งมาปั่นติดแฟร์นันดินโญ่ที่ยืนกำแพงออกหลังไป และจากจังหวะเตะมุมของ ดิ มาเรีย เข้ามา มาร์กินญอส ขึ้นโขกบอลย้อนไปเสาแรก บอลไปตกบนคานอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 30 ลูกทีมของ เป๊ป ได้บอลตอบโต้ขึ้นมาอีกที คราวนี้ อิลคาย กุนโดกัน ไหลให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดด้วยขวานอกกรอบบอลยังหลุดกรอบออกไป ช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 มาห์เรซ ได้บอลหลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่ เกย์ลอร์ นาวาส ออกมาปิดเสาแรกก่อนใช้เข่าเซฟออกไปหวุดหวิด จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-0 (สกอร์รวมสองนัด แมนฯซิตี้ นำ 3-1)

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 54 เรือใบสีฟ้า เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สองหลัง เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลให้ ฟิล โฟเด้น หลุดเข้าไปซัดติดเซฟ เกย์ลอร์ นาวาส กระนั้นผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน นาทีที่ 63 เรือใบสีฟ้า ทะยานนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะสวนขึ้นมาทางซ้ายของ ฟิล โฟเด้น ลากเข้ามาแล้วฝากให้ เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนวิ่งไปรับในก่อนแล้วปาดเลียดมาเสาไกลให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาแปโล่งๆยัดตาข่ายเข้าไป เป็นประตูที่สองของปีกทีมชาติแอลจีเรีย สถานการณ์ของ เปแอสเช แย่งหนักไปอีกหลังต้องมาเหลือแค่ 10 คน เมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย ไปเล่นนอกเกมใส่ แฟร์นันดินโญ่ ก่อนเจ้าตัวจะโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป นาทีที่ 77 โฟเด้น ที่เกมนี้เล่นได้โดดเด่นเกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ด หลังได้โอกาสซัดด้วยซ้ายไปทางเสาไกลแต่บอลไปชนโคนเสาด้านนอกออกหลังอย่างน่าเสียดาย อีกสามนาทีถัดมา โฟเด้น ได้ยิงอีกครั้งแต่บอลก็ไปเข้ามือ นาวาส ช่วงเวลาที่เหลือ เปแอสเช ไม่สามารถเจาะแนวรับเจ้าถิ่นได้ จบเกม แมนฯซิตี้ เอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2-0 สกอร์รวมสองนัดเอาชนะไปได้ 4-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร โดยเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เชลซี หรือเรอัล มาดริด ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ที่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส (GK), ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอ๊าส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แฟร์นันดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น

เปแอสเช : เกย์ลอร์ นาวาส (GK), อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มาร์กินญอส, เปรสแนล คิมเปมเบ้, อับดู ดิยัลโล่, อันเดร์ เอร์เรร่า, เลอันโดร ปาเรเดส, อังเคล ดิ มาเรีย, มาร์โก แวร์รัตติ, เนย์มาร์, เมาโร อิการ์ดี้