"ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านทำได้แค่เสมอโซเซียดาด

การแข่งขันในศึก ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เรอัล โซเซียดาด เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 และฝั่งผู้มาเยือน มาสู้ในระบบ 4-3-3

บอลเขี่ยเริ่มมาถึงนาทีที่ 11 เจ้าบ้านตั้งเกมบุกได้ก่อน

จากจังหวะของ เอริค ไบยี่ เติมสูงมาถึงกลางสนามก่อนเปิดบอลทิ้งให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วิ่งสอดขึ้นไปก่อนตวัดตามน้ำแต่โดนไม่ดีบอลเข้ามือ อเล็กซ์ เรมิโร่ รับไว้ได้สบาย

นาทีที่ 12 เรอัล โซเซียดาด ชวดประตู

จากจังหวะของ อัดนาน ยานาไซ ทำเกมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจ่ายเข้าในเขตโทษให้ อันโดนี่ โกโรซาเบล วิ่งมารับบอลแต่ถูก แดเนี่ยล เจมส์ ชนล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษให้แก่ เรอัล โซเซียดาด และเป็นทางด้าน มิเกล โอยาร์ซาบัล รับหน้าที่สังหารแต่กลับยิงได้อย่างผิดหวังบอลหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 15 เรอัล โซเซียดาด ยังเดินหน้าบุก

จากจังหวะของ มิเกล เมริโน่ จ่ายบอลออกมาทางฝั่งขวาให้ อัดนาน ยานาไซ ลากบอลโยกหลอกผู้เล่นเจ้าบ้านจ่ายมาหน้ากรอบเขตโทษให้ อันแดร์ กูเอวาร่า กดเต็มข้อแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 22 เจ้าบ้านครองบอลบุกบ้าง

จากจังหวะของ อเล็กซ์ เตลเลส จ่ายบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายให้กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แต่งบอลก่อนม้วนตัวยิงเร็วบอลพุ่งเข้าหาประตู แต่ อเล็กซ์ เรมิโร่ ยังโชว์เซฟเอาไว้ได้อีกครั้ง

นาทีที่ 24 บรูโน่ แฟร์นันด์ส พลาดโอกาสทอง

จากจังหวะของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กระโดดโหม่งบอลชงกลับมาให้ เมสัน กรีนวู้ด จ่ายเร็วไปที่ เฟร็ด ที่เติมขึ้นมาเก็บบอลแตะหลบ อเล็กซ์ เรมิโร่ นายด่านโซเซียดาดที่ออกมาขวาง ก่อนจ่ายบอลย้อนให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วิ่งปั่นบอลในเขตโทษด้านขวาบอลโค้งชนคานบนไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 36 แดเนี่ยล เจมส์ ได้ลุ้นบ้าง

จากจังหวะของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วางบอลยาวจากบริเวณกลางสนามระยะประมาณ 26 หลาไปให้ แดเนี่ยล เจมส์ สอดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะได้โหม่งบอล แต่ก็ยังไปตรงตัว อเล็กซ์ เรมิโร่ นายด่านทีมเยือนทุบทิ้งออกมาได้

จบครึ่งแรก ทั้งสองยังทำอะไรกันไม่ได้มาก ยังเสมอกันอยู่แบบไร้สกอร์เปอร์เซ็นต์การครองบอลและจังหวะการเข้าทำยังถือว่าสูสีกัน แต่เป็นทางเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ชิงความได้เปรียบมาได้จากนัดที่แล้วถึง 4 ประตูทำให้สกอร์รวมตอนนี้ยังอยู่ที่ (4-0)

นาทีที่ 48 เจ้าบ้านยังเดินหน้าทำเกมบุก

จากจังหวะลูกฟรีคิกระยะประมาณ 26 หลาเป็น มาร์คัส แรซฟอร์ด ลองปั่นบอลลูกนี้บอลพุ่งข้ามกำแพงแต่ก็หลุดข้างเสาสองด้านขวาออกไปแบบได้ลุ้น

นาทีที่ 50 ทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง

จากจังหวะลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายของ อัดนาน ยานาไซ เปิดบอลเข้ามาหน้าประตูแต่ถูกแข้งเจ้าบ้านโหม่งเคลียร์แต่บอลมาเข้าทาง ไอเฮน มูยอซ วิ่งมากดทันทีบอลยังติดผู้เล่นเจ้าบ้านอีกหน บอลขลุกขลิกอยู่หน้าประตู ก่อนเป็น โมดิโบ ซาญ็อง ได้โหม่งเต็มหัวแต่บอลเช็คคานออกไปอย่างน่าเสีย

นาทีที่ 56 เมสัน กรีนวู้ด ยังพังประตูไม่ได้

จากจังหวะของ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ เติมเกมสูงมาหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายบอลสั้นเข้าไปให้ เมสัน กรีนวู้ด เลี้ยงหลบแนวรับทีมเยือนก่อนจะยิงเต็มข้อ แต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบพุ่งเข้าข้างตาข่ายไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 63 เจ้าบ้านชวดประตู

จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายของ อเล็กซ์ เตลเลส เปิดบอลลอยมากลางเขตโทษถึง อั๊กเซล ตวนเซเบ้ เบียดแข้งทีมเยือนก่อนโหม่งเข้าประตูไปไม่เหลือ แต่ผู้ตัดสินได้เช็ควีเออาร์ ก่อนมองว่า วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ทำฟาวล์ไปก่อนแล้วในจังหวะเบียดกันก่อนหน้า

หลังจากนั้นทั้งสองยังทำอะไรกันไม่ได้บอลส่วนใหญ่ครองกันไปมาอยู่ที่กลางสนาม ทำให้จบเกมนี้ เสมอกันไปที่ 0-0 เปอร์เซ็นต์กาาครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ครองบอลได้เหนือกว่าแต่ด้วยสกอร์ในนัดแรกที่ตุนมาแล้วถึง 4 ลูกทำให้นักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นกันแบบสบายๆไม่รีบเจาะเข้าทำประตู แต่ก็เป็นเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ดีพอเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไปในศึก ยูโรปา ลีก