พรีเมียร์ลีก เวลา : 02.00 น. แมนฯยู (4) -vs- เชลซี (12) ราคาบอล : แมนฯยู ต่อ 1.0(-5)

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : แมนฯยู (4) -vs- เชลซี (12)
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เวลา : 02.00 น.
ราคาบอล : แมนฯยู ต่อ 1.0(-5)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

23/10/22 เชลซี เสมอ แมนฯยู 1-1
29/04/22 แมนฯยู เสมอ เชลซี 1-1
29/11/21 เชลซี เสมอ แมนฯยู 1-1
01/03/21 เชลซี เสมอ แมนฯยู 0-0
25/10/20 แมนฯยู เสมอ เชลซี 0-0
20/07/20 แมนฯยู แพ้ เชลซี 1-3 / (กลาง) เอฟเอ คัพ
18/06/20 เชลซี แพ้ แมนฯยู 0-2
31/10/19 เชลซี แพ้ แมนฯยู 1-2 / ลีก คัพ
11/08/19 แมนฯยู ชนะ เชลซี 4-0
28/04/19 แมนฯยู เสมอ เชลซี 1-1

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

แมนฯยู
20/05/23 ชนะ บอร์นมัธ 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.25 … เสียครึ่ง
13/05/23 ชนะ วูล์ฟส์ 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.5 … ได้
08/05/23 แพ้ เวสต์แฮม 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.5 … เสีย
05/05/23 แพ้ ไบรท์ตันฯ 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.5 … เสีย
30/04/23 ชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 … ได้ครึ่ง
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 17 ชนะ 13 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 30 เสีย 8

เชลซี
21/05/23 แพ้ แมนฯซิตี้ 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.75 … เสียครึ่ง
13/05/23 เสมอ ฟอเรสต์ 2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1 … เสีย
06/05/23 ชนะ บอร์นมัธ 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.25 … ได้
03/05/23 แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 1 … เสีย
27/04/23 แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 … เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 18 ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 9 ได้ 17 เสีย 24

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

แมนฯยู
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 5 เสีย 0
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 1 เสีย 2

เชลซี
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 3 เสีย 6
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 4 เสีย 5

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

แมนฯยู

          แมนฯยู ของกุนซือ อีริค เตน ฮาก เพิ่งจะบุกเอาชนะ บอร์นมัธ 1-0 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก ดอนนี่ ฟาน เด เบ็ค, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ฟิล โจนส์ กับ ทอม ฮีตัน เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงซึ่งยังไม่หายดียกแพ็ค คาดว่า เตน ฮาก เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี อ็องโตนี่ มาร์กซิยัล ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ แอนโทนี่, บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสามประสานกลางรุกคอยซัพพอร์ตอยู่ด้านหลังตามสูตร

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
ผู้รักษาประตู – ทอม ฮีตัน (-)
กองหลัง – ลิซานโดร มาร์ติเนซ (27 นัด/1 ประตู), ฟิล โจนส์ (-)
กองกลาง – ดอนนี่ ฟาน เด เบ็ค (7 นัด), มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (11 นัด)

แมนฯยู (4-2-3-1) : ดาบิด เด เกอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ – คาเซมิโร่, คริสเตียน อีริคเซ่น – แอนโทนี่, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยัล

เชลซี

          เชลซี ของกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ แมนฯซิตี้ 0-1 ในลีกช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนทำศึก ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก อาร์มันโด้ โบรย่า, เมสัน เม้าต์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, รีซ เจมส์, มาร์ก กูกูเรญ่า, เบ็น ชิลเวลล์, เบอนัวต์ บาดิอาชิเล่ และ มาร์คัส เบ็ตติเนลลี่ เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งใช้งานไม่ได้ทั้งหมด คาดว่า แลมพาร์ด เตรียมจัดทัพในระบบ 3-4-1-2 โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ควงคู่ล่าตาข่ายในแดนหน้าตามระเบียบ

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
ผู้รักษาประตู – มาร์คัส เบ็ตติเนลลี่ (-)
กองหลัง – รีซ เจมส์ (16 นัด/1 ประตู), มาร์ก กูกูเรญ่า (24 นัด), เบ็น ชิลเวลล์ (23 นัด/2 ประตู), เบอนัวต์ บาดิอาชิเล่ (11 นัด/1 ประตู)
กองกลาง – เมสัน เม้าต์ (24 นัด/3 ประตู), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (7 นัด), มาเตโอ โควาซิช (26 นัด/1 ประตู)
กองหน้า – อาร์มันโด้ โบรย่า (12 นัด/1 ประตู)

เชลซี (3-4-1-2) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า – เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ธิอาโก้ ซิลวา, เทรวอห์ ชาโลบาห์ – เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, รูเบน ลอฟตัส-ชี๊ค, ลูอิส ฮอลล์ – คอเนอร์ กัลลาเกอร์ – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ไค ฮาแวร์ตซ์

ทรรศนะ

          ทีมเยือน เชลซี มีปัญหาเข้ามาเติมเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บของขุมกำลังหลักลากยาวไปถึงตัวเสริมก็เดี้ยงอีก ทำให้กุนซือใหญ่อย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด เหลือออฟชั่นให้ใช้งานน้อยลงทุกที แถมฟอร์มการเล่นก็ดูไม่จืดเลยสักนัด ขนาดล่าสุดยังบุกพ่าย แมนฯซิตี้ สำรอง 0-1 แบบไม่มีทรงจะยิงได้เลย สวนทางกับเจ้าถิ่น แมนฯยู ที่กำลังต้องการคะแนนเพื่อการันตีท็อปโฟร์และลุ้นจบอันดับสามของพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ฉะนั้นพวกเขายังเน้นแน่นอน ซึ่งฟอร์ม 2 เกมท้ายในลีกก็สามารถกำชัยรวดแบบไม่เสียเลยสักตุงเดียว ดูทรงแล้วมีแนวโน้มที่จะเก็บชัยในรังเหย้าตัวเองสูงมาก เมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมของทั้งคู่ แนะนำอยู่ต่อรอรับทรัพย์ ฟันธง! จัดเต็ม “ปีศาจแดง”

ฟันธง : แมนฯยู ชนะ