ฟุตบอลโลก 2022 (รอบคัดเลือก โซนเอเชีย) เวลา : 17:30 น. มองโกเลีย -VS- ญี่ปุ่น เรตราคา : ญี่ปุ่น ต่อ 6

วันอังคารที่ 30 มีนาคม 2564

ฟุตบอลโลก 2022 (รอบคัดเลือก โซนเอเชีย)

มองโกเลีย -VS- ญี่ปุ่น

เวลา : 17:30 น.

สนาม : ฟูคูดะ เดนชิ อารีน่า (ชิบะ – ญี่ปุ่น)

ถ่ายทอดสด : –

เรตราคาไทย : ญี่ปุ่น ต่อ 6

ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม

10/10/19 ญี่ปุ่น 6-0 มองโกเลีย (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

มองโกเลีย
10/10/19 แพ้ ญี่ปุ่น 0-6 (เยือน, ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
15/10/19 แพ้ คีร์กีซสถาน 1-2 (เหย้า, ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
14/11/19 เสมอ กัมพูชา 1-1 (เยือน, ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
19/11/19 แพ้ เมียร์มาร์ 0-1 (เยือน, ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
25/03/21 แพ้ ทาจิกิสถาน 0-3 (เยือน, ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)

ญี่ปุ่น
09/10/20 เสมอ แคเมอรูน 0-0 (สนามกลาง, กระชับมิตรทีมชาติ)
13/10/20 ชนะ ไอวอรีโครส์ 1-0 (สนามกลาง, กระชับมิตรทีมชาติ)
13/11/20 ชนะ ปานามา 1-0 (สนามกลาง, กระชับมิตรทีมชาติ)
18/11/20 แพ้ เม็กซิโก 0-2 (สนามกลาง, กระชับมิตรทีมชาติ)
25/03/21 ชนะ เกาหลีใต้ 3-0 (เหย้า, กระชับมิตรทีมชาติ)

สภาพทีมโดยทั่วไป

มองโกเลีย
มองโกเลีย ของเทรนเนอร์ชาวสโลวาเกีย ราสติสลาฟ โบซิค ยังยึด 11 ตัวจริงจากแมตช์ล่าสุดแพ้ต่อ ทาจิกิสถาน ด้วยสกอร์ขาดลอย 0-3 ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น รองแชมป์เอเชียน คัพ 2019 ของเฮดโค้ช ฮาจิเมะ โมริยะสึ ชินจิ โอกาซากิ บาดเจ็บ ส่วน ยูโตะ นากาโตโมะ กับ ฮิโรกิ ซากาอิ ไมได้เรียกตัวมา ส่วน ทาเกฟูสะ คูโบะ ติดทีมชาติญี่ปุ่น U23 การจัดทีมยังออกสตาร์ทด้วย ทาคูมิ มินามิโนะ, ไดจิ คามาดะ, มายะ โยชิดะ, ทาเกฮิโร่ โทมิยะสึ, , ยูยะ โอซาโกะ และ วาตารุ เอ็นโดะ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

มองโกเลีย
มองโกเลีย (4-4-2) : อาเรียนโบลด์ บาตไซข่าน – บีลกูน กันโบลด์, นอร์จมู เซียเดนบอล, บายาสกาลานกีน การิดมากไน, ทูร์แบต ดากิน่า – นาร์มานดักห์ อาร์ตัก, ทูกุลดูร์ มุงค์-เออร์ดิน, บัลจินยาม บาทโบลด์, คูเรลบาตาริน ทเซนด์-อายูช – นารันโบลด์ นาม-โอซอร์, กันบาตาริน ตอกส์บายาร์

ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น (4-2-3-1) : ชูอิจิ คอนดะ – มิกิ ยามาเนะ, มายะ โยชิดะ, ทาเกฮิโร่ โทมิยะสึ, โช ซาซากิ – วาตารุ เอ็นโดะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ – จุงยะ อิโต, ไดจิ คามาดะ, ทาคูมิ มินามิโนะ – ยูยะ โอซาโกะ

ความน่าจะเป็นของเกม

มองโกเลีย ผลงานช่วงหลังในทุกรายการยังไม่สามารถหวังผลได้จากการแพ้รวด 2 นัดหลังสุด ทำให้เป็นความปราชัยรวม 5 จาก 6 นัดหลัง และเก็บผลเสมอเท่านั้น 1 เกมจากการลงสนาม 6 นัดที่ผ่านมา ส่วนทางด้าน ญี่ปุ่น ฟอร์มระยะหลังในทุกรายการยังดีเยี่ยมด้วยการกลับมาเข้าวินในเกมล่าสุด ทำให้เก็บชัยรวม 3 ใน 4 นัดหลัง และพ่ายเกมเดียวเท่านั้นจากการลงสนาม 5 นัดที่ผ่านมา ทำให้แมตช์นี้ “ซามูไรบลู” เหนือชั้นกว่าจะถล่ม มองโกเลีย ไปได้