สวิตเซอร์แลนด์แม่นโทษ!! ล้มยักษ์ ฝรั่งเศส พลิกเข้าสู่รอบ 8 ทีม

การแข่งขันในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” รอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่าง ฝรั่งเศส ลงสนามพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ เกมนี้ ฝรั่งเศส ลงเล่นในระบบ 3-4-1-2 และทางด้าน สวิตเซอร์แลนด์ มาสู้ในระบบ 3-4-1-2

เกมเริ่มมาได้ 2 นาที “ตราไก่” ได้ทักทายก่อน

จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายของ อ็องตวน กรีซมันน์ ปั่นบอลโค้งมาเสาแรกถึง ราฟาแอล วาราน ลอยมาโหม่งเต็มแรงแต่โดนไม่ดีบอลเหินข้ามคานหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 15 สวิตเซอร์แลนด์ ทะยานออกนำไปก่อน

จากจังหวะทางฝั่งซ้าย สตีเว่น ซูเบอร์ สอดมาเก็บบอลแต่งบอลหาช่องก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ ฮาริส เซเฟโรวิช เบียด เกลม็องต์ ล็องช์เล่ต์ ขึ้นไปโขกเปลี่ยนทางผ่านมือ อูโก้ โยริส เบียดโคนเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ สวิตเซอร์แลนด์ ออกนำ 0-1

นาทีที่ 22 ฝรั่งเศส เกือบตามติดเสมอได้สำเร็จ

จากบอลทางฝั่งซ้ายของ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ จ่ายเข้าเขตโทษให้ อาเดรียง ราบีโอต์ สอดมาตวัดเร็วไปเสาไกลเกือบถึง คาริม เบนเซม่า แต่ต้องชม ยันน์ ซอมเมอร์ ออกมาปัดทำลายจังหวะเอาไว้ได้

นาทีที่ 30 สวิตเซอร์แลนด์ ตอบโต้บ้าง

จากลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้ายของ สตีเว่น ซูเบอร์ เปิดบอลเข้าเขตโทษลึกไปเสาไกลถึง บรีล เอ็มโบโล่ ขึ้นโหม่งได้แต่โดนไม่ดีบอลผ่านหน้าประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 45 “ตราไก่” พยายามเร่งเครื่อง

จากจังหวะของ อ็องตวน กรีซมันน์ ไขว้จ่ายต่อให้ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ พาบอลแหวกเข้าในสับหลอกได้ช่องกดด้วยซ้ายบอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

จบครึ่งเวลาแรก ฝรั่งเศส 0 สวิตเซอร์แลนด์ 1 รูปเกมทั้งสองทีมยังเปิดเกมสู้กันได้อย่างสูสีแต่ทาง ฝรั่งเศส ยังยิงไม่ตรงกรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งหลัง

นาทีที่ 50 สวิตเซอร์แลนด์ โหมบุกกดดันต้นแต่ต้นครึ่งหลัง

จากจังหวะของ บรีล เอ็มโบโล่ พาบอลแหวกเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนได้ช่องปาดเรียดไปเสาไกลเสียดายย้อนหลัง ฮาริส เซเฟโรวิช โดนแนวรับ ฝรั่งเศส หวดทิ้งออกมาก่อน

นาทีที่ 53 สวิตเซอร์แลนด์ พลาดโอกาสบวกสกอร์เพิ่ม

จากจังหวะความสามารถเฉพาะตัวของ สตีเว่น ซูเบอร์ พาบอลกระชากขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนโดน แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ตามมาสกัดร่วงลงไปในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินปล่อยให้เกมดำเนินต่อไปหลายนาทีก่อนได้รับสัญณานจากห้อง วีเออาร์ วิ่งออกไปดูที่ข้างสนามแล้วหันกลับมาชี้เป็นลูกจุดโทษ ก่อนจะเป็น ริคาร์โด้ โรดริเกซ รับหน้าที่สังหารไปกลับยิงไม่ดีบอลไปติดเซฟ อูโก้ โยริส

นาทีที่ 57 ฝรั่งเศส ตามตีเสมอได้สำเร็จ 

จากความผิดพลาดของ สวิตเซอร์แลนด์ เสียบอลกลางสนามสุดท้ายก่อนบอลจะมาเข้าทาง อ็องตวน กรีซมันน์ จ่ายขึ้นหน้ามาถึง คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ แปะเร็วต่อให้ คาริม เบนเซม่า เกี่ยวบอลไขว้เข้าเขตโทษก่อนยกข้ามตัว ยันน์ ซอมเมอร์ ส่งบอลเข้าตุงตาข่ายไปอย่างเหนือชั้น ฝรั่งเศล ตีเสมอ 1-1

นาทีที่ 58 สวิตเซอร์แลนด์ เกมช็อตไปดื้อ ๆ 

จากจังหวะประสานงานสุดสวยของ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ไขว้บอลชิ่งคืนให้กับ อ็องตวน กรีซมันน์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะยิงไปติดปลายมือ ยันน์ ซอมเมอร์ กระดอนมาเข้าทาง คาริม เบนเซม่า โขกจ่อ ๆ เข้าประตูไปไม่เหลือ ฝรั่งเศล พลิกแซง 2-1

นาทีที่ 75 ปอล ป็อกบา ซัดไกลสุดสวย 

จากจังหวะของ ปอล ป็อกบา เก็บตกบอลหน้ากรอบเขตโทษได้ก่อนปั่นด้วยขวาระยะประมาณ 30 หลาบอลติดไซค์โค้งผ่านมือ ยันน์ ซอมเมอร์ เสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม ฝรั่งเศล นำห่าง 3-1

นาทีที่ 81 สวิตเซอร์แลนด์ ปลุกความหวังพังประตูไล่มา 3-2

จากบอลทางฝั่งขวาของ เควิน เอ็มบาบู หลุดขึ้นมาเปิดบอลเข้าเขตโทษโค้งมาเข้าหัว ฮาริส เซเฟโรวิช สอดขึ้นมาระหว่างแนวรับฝรั่งเศส โหม่งเข้าไปไม่พลาด สวิตเซอร์แลนด์ ไล่มา 3-2

นาทีที่ 89 สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ยอมแพ้ไล่ตีเสมอได้สำเร็จ 

จากจังหวะเสียบอลกลางสนามของ ปอล ป็อกบา ก่อนจะเป็น กรานิต ชาคา จ่ายบอลทะลุช่องขึ้นมาให้ มาริโอ กาฟราโนวิช โยกหนี เปรสแนล คิมเป็มเบ้ ได้ช่องยิงหักข้อด้วยขวาบอลผ่านมือ อูโก้ โยริส ซุกหน้าต่างเข้าไปไม่เหลือ สวิตเซอร์แลนด์ ไล่ตีเสมอ 3-3

จบเกม 90 นาที ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสุดมันส์ เสมอกันไปก่อน ฝรั่งเศส 3 สวิตเซอร์แลนด์ 3 ต้องไปต่อเวลาพิเศษหาทีมผ่านเข้ารอบ

นาทีที่ 95 ฝรั่งเศส พลาดโอกาสสำคัญ

จากจังหวะของ คิงส์เล่ย์ โกมัน กระชากบอลหนี เควิน เอ็มบาบู หลุดขึ้นมาทางซ้ายจ่ายเข้าในบอลย้อนมาถึง แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ก่อนดีดด้วยขวาไปติดปลายมือ ยันน์ ซอมเมอร์ ผวาปัดข้ามคานออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 109 คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ น่าจะทำได้ดีกว่านี้

จากจังหวะของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พาบอลลุยขึ้นมาก่อนไปติดขาแนวรับ สวิตเซอร์แลนด์ กระดอนมาเข้าทาง คิงส์เล่ย์ โกมัน ทางซ้ายโยกหาช่องจ่ายเรียดเข้าในให้ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ตั้งเท้าแปด้วยขวาหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 120 ยันน์ ซอมเมอร์ ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟเอาไว้ได้

จากจังหวะของ เปรสแนล คิมเป็มเบ้ ทิ้งบอลยาวเข้าเขตโทษให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เบียดชนะ ฟาเบียน แชร์ ขึ้นไปโหม่งเปลี่ยนทางแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ ยันน์ ซอมเมอร์ ลอยไปคว้าไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม 

จบช่วงต่อเวลาพิเศษ ฝรั่งเศส ยังเสมอกับ สวิตเซอร์แลนด์ อยู่ที่ 3-3 ต้องตัดสินด้วยจุดโทษกลายเป็น สวิตเซอร์แลนด์ ทำได้ดีกว่าแม่นจุดโทษเอาชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ 4-5 ส่งผลให้ทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้สำเร็จ