หักปากกาทุกด้าม! ทัพฟ้าขาว เปิดตัวสุดบู่พ่าย ซาอุ แต่หัววัน

สนาม : ลูซาอิล ไอคอนิค

ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี คู่นี้เตะกันตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 โดยเป็นการพบกันของ อาร์เจนติน่า พบกับ ซาอุดิอาระเบีย

ครึ่งแรกเริ่มมาได้แค่ 2 นาที อาร์เจนติน่า ก็มีโอกาสออกนำก่อน อังเคล ดิ มาเรีย จ่ายบอลให้ ลิโอเนล เมสซี่ ยิงเล่นทางจ่อๆ แต่ อัล-โอวาอิส ปัดทิ้งไปได้

นาทีที่ 10 อาร์เจนติน่า มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ โดนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่สุดท้ายแล้วจะเป็น เมสซี่ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป ทัพฟ้าขาว ออกนำไปก่อน 1-0

ถัดมานาที 23 เมสซี่ มีโอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเน้นๆ ส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายแล้ว ทว่ากลับถูกเป่าว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

นาที 28 อาร์เจนติน่า ก็ยังน่าจะได้นำห่างอีกครั้ง มาร์ติเนซ หลุดเดี่ยวก่อนจะโชว์ชิพข้ามตัวนายทวารฝ่ายตรงข้ามเข้าไปแล้ว แต่ก็โดนตัดสินจาก VAR เป็นลูกล้ำหน้าไป

นาที 45+2 อังเคล ดิ มาเรีย ได้บอลจาก เลอันโดร ปาเรเดส หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงระยะหวังผลสุดๆ แต่ก็ไม่ผ่านมือของ โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส

จบครึ่งแรก อาร์เจนติน่า นำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังเริ่มมาแค่ 3 นาที ซาอุฯ ก็ได้เฮทันที ฟราส อัล-บูไรคาน จ่ายบอลทะลุช่องให้ ซาเลห์ อัล-เชห์รี่ กระชากเข้าไปในกรอบ ก่อนที่จะกดด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย ซาอุฯ ตามมาเป็น 1-1

นาที 53 แฟนบอล อาร์เจนติน่า ก็ต้องช็อคอีกครั้ง ซาเลม อัล ดอลซารี่ ได้บอลจากหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่จะลากบอลตัดเข้ากลางแล้วปั่นสุดสวยเข้าประตูไป ซาอุดิอาระเบีย นำเป็น 2-1

นาที 84 อาร์เจนติน่า มีลุ้นตีเสมอเมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย ตักบอลไปให้ ลิโอเนล เมสซี่ วิ่งสอดขึ้นมาโหม่งเน้นๆ แต่บอลก็ไปเข้ามือของนายทวารคู่แข่งอยู่ดี

นาที 45+10 ดิ มาเรีย โยนบอลไปให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่ยืนให้สัญญาณอยู่ที่เสาไกลขึ้นมาโขกจ่อๆ แต่วันนี้ โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส โชว์สกิลซุปเปอร์เซฟไว้ได้อีก

จบเกมการแข่งขัน อาร์เจนติน่า พ่ายแพ้ต่อ ซาอุดิอาระเบีย ไปแบบสุดช็อค 1-2

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

 อาร์เจนตินา (4-2-3-1) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอวล โมลิน่า, คริสเตียน โรเมโร่ (ลิซานโดร มาร์ติเนซ น.59), นิโกลัส โอตาเมนดี้, นิโกลัส ตาเกลียฟิโก้ (มาร์กอส กคุนย่า น.71) – โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส (เอนโซ่ เฟอร์นานเดซ น.59), อเลฮานโดร โกเมซ (ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ น.59) – ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย  

ซาอุดีอาระเบีย (4-4-1-1) : โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส -ซาอุด อับดุลฮามิด, ฮาซซาน อัลตัมบัคติ, อาลี อัล-บูไลฮี, ยาสเซอร์ อัล-ชาห์รานี่ – โมฮาเหม็ด คันโน่, อับดูเลลาห์ อัล-มัลกี้ – ซาเลห์ อัล-เชห์รี่ (ซุลตาน อัล กานนาม น.78), ซัลมาน อัล-ฟาราจ์ (นาวาฟ อัล อาเบด น.45+4), ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี่ – ฟิราส อัล-บูไรคาน