การแข่งขันในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง ยูเครน ลงสนามพบกับ อังกฤษ เกมนี้ ยูเครน ลงเล่นในระบบ 3-5-2 และทางด้าน อังกฤษ มาสู้ในระบบ 4-2-3-1
เปิดฉากครึ่งแรก 2 นาที “สิงโตคำราม” ได้ทักทายก่อน
จากจังหวะของ เมสัน เม้าน์ท พาบอลแหวกขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนลากตัดเข้าเขตโทษโดนแนวรับ ยูเครน เกี่ยวขาร่วงลงไปแต่ผู้ตัดสินยังใจแข็งไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ
นาทีที่ 4 อังกฤษ ทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะของ ราฮีม สเตอร์ลิง เก็บบอลทางฝั่งซ้ายก่อนโยกตัดเข้าในได้ช่องจ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ แฮร์รี่ เคน หลุดขึ้นมาก่อนจะทิ้งตัวทิ่มด้วยขวาบอลไปแฉลบไหล่ จอร์จี้ บุชชาน เปลี่ยนทางซุกก้นตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ อังกฤษ ออกนำ 0-1
นาทีที่ 17 ยูเครน ได้ตอบโต้บ้าง
จากความผิดพลาดของ ไคล์ วอล์คเกอร์ จ่ายบอลคืนหลังเบาโดน โรมัน ยาเรมชุค สอดมาตัดบอลได้ก่อนกระชากเข้าเขตโทษได้ช่องยิงด้วยซ้ายยัดโคนเสาแรกแต่ต้องชม จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่ยังไวผวาปัดทิ้งไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 28 อังกฤษได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะ
จากลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้ายของ ลุค ชอว์ เปิดบอลโค้งเข้าเขตโทษมาถึง แฮร์รี่ เคน ขึ้นดีกว่าแนวรับ ยูเครน ได้โหม่งเต็มแรงแต่ไปโดนใต้ลูกบอลพุ่งผ่านมือ จอร์จี้ บุชชาน แต่ยังเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 33 จอร์จี้ บุชชาน ยังยืนตำแหน่งได้ดี
จากจังหวะของ ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากบอลเข้าเขตโทษก่อบจ่ายเข้าในไปแฉลบแนวรับ ยูเครน สกัดไม่ดีเด้งมาเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ ก่อนจะกดด้วยขวาหน้ากรอบบอลพุ่งตรงกรอบแต่ยังไปติดเซฟ จอร์จี้ บุชชาน ปัดทิ้งออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 40 เจดอน ซานโช่ เกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ด
จากจังหวะของ ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายบอลขึ้นหน้ามาให้ ลุค ชอว์ เติมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจ่ายย้อนเข้าในให้ เจดอน ซานโช่ โยกหนีแนวรับ ยูเครน ก่อนยิงด้วยขวาเต็มข้อแต่บอลก็ยังพุ่งไปตรงตัว จอร์จี้ บุชชาน รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
จบครึ่งเวลาแรก ยูเครน ตามหลัง อังกฤษ อยู่ที่ 0-1 รูปเกมส่วนใหญ่เป็นของทางฝั่ง อังกฤษ ที่ขึงเกมรุกใส่อย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังหาประตูเพิ่มไม่ได้ ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วง 45 นาทีหลัง
เกมครึ่งหลังเริ่มมาไม่ถึง 1 นาที “สิงโตคำราม” บวกสกอร์ได้สำเร็จ
จากลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้ายของ ลุค ชอว์ ปั่นบอลโค้งลึกมาเสาไกลให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เบียดเอาชนะ มีโคล่า มัตวิเยนโก้ โหม่งบอลซุกหน้าต่างเสาไกลเข้าไปไม่เหลือ อังกฤษ นำห่าง 0-2 ในนาทีที่ 46
นาทีที่ 50 ยูเครน เกมช็อตสกอร์ไหลเป็นน้ำ
จากจังหวะของ ราฮีม สเตอร์ลิง เก็บบอลได้ทางฝั่งซ้ายก่อนไขว้ต่อมาให้ ลุค ชอว์ สอดมาเปิดบอลโค้งเข้ากลางประตูถึง แฮร์รี่ เคน ได้โหม่งเน้น ๆ หน้าปากประตูบอลพุ่งลอดขา จอร์จี้ บุชชาน ตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ อังกฤษ ทิ้งห่าง 0-3
นาทีที่ 62 อังกฤษ ไม่ผ่อนเกมบุกใส่ต่อเนื่อง
จากจังหวะบอลวางยาวของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เข้าเขตโทษแนวรับ ยูเครน โหม่งสกัดไม่ดีบอลมาเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ยิงตามน้ำด้วยซ้ายแต่ยังไปติดปลายมือ จอร์จี้ บุชชาน ปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 63 อังกฤษ ถล่มยับบวกเพิ่มอีกเม็ด
จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ เมสัน เม้าน์ท เปิดบอลมากลางประตูบอลถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน สอดมาโหม่งแบบไร้ตัวประกบบอลกระดอนพื้นเด้งเข้าประตูไปไม่เหลือ อังกฤษ นำโด่ง 0-4
ช่วงเวลาที่เหลือบอลส่วนใหญ่อยู่บริเวณกลางสนามอังกฤษเริ่มผ่อนเกมทำให้ จบเกม ยูเครน แพ้ให้กับ อังกฤษ ไป 0-4 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งอังกฤษที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างสรรค์จังหวะเข้าทำได้ดุดันมากกว่าทำให้เกมนี้ อังกฤษ เอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้พวกเขาทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศที่จะต้องไปพบกับ เดนมาร์ก ต่อไป