อิตาลีเสียสถิติไร้พ่าย สเปนสมหวัง “เฟร์ราน”เบิ้ลพาชิงดำเนชั่นส์ ลีก

“อัซซูรี่” อิตาลี ถูกเบรกสถิติไร้พ่ายไว้ที่ 37 นัดติดต่อกัน เมื่อล่าสุดเหลือ 10 คน แถมโดน “กระทิงดุ” สเปน บุกล้างแค้นจากเกมตัดเชือกศึกยูโร “เฟร์ราน ตอร์เรส” จัดสองเม็ดสอยชนะ 2-1 ทำให้ทีมเยือนผ่านไปรอชิงชนะเลิศ โดยจะพบผู้ชนะระหว่าง เบลเยี่ยม-ฝรั่งเศส ต่อไป

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ลีก เอ รอบรองชนะเลิศ คืนวันพุธที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา “อัซซูรี่” อิตาลี เจ้าของแชมป์ยูโร 2020 แถมสถิติไร้พ่าย 37 นัดติดต่อกันของพวกเขายังคงดำเนินต่อไป โรแบร์โต้ มันชินี่ ปรับทีมเล็กน้อย ทว่าแกนหลักอยู่เกือบครบ “เคียซ่า-อินซินเย่” รอป่วน “กระทิงดุ” สเปน ที่ซิวชัยสองนัดหลังสุด หลุยส์ เอ็นริเก้ ยังมั่นใจขุนพลชุดเดิม มีทั้ง “เฟร์ราน-โอยาร์ซาบัล” ลงฉะถอนแค้นจากตัดเชือกศึกยูโรหนล่าสุด

เปิดฉากเกมครึ่งแรกเจ้าถิ่นลุยตั้งแต่ห้านาทีแรก เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ ไล่บีบแข้งทีมเยือน ก่อนฉกบอลมาจ่ายตั้งระยะ 20 หลา เฟเดริโก้ เคียซ่า ตะบันไกลบอลพุ่งถูก อูไน ซิม่อน ล้มตัวปัดออกไป และแล้วนาทีที่ 17 กระทิงดุ ก็ขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะของมาร์กอส อลอนโซ่ ไหลบอลขนานเส้นข้างทางซ้าย มิเกล โอยาร์ซาบัล สปีดมาครอสบบอลมาหน้าประตู เฟร์ราน ตอร์เรส กระโดดยิงบอลเด้งหนีมือนายด่านเจ้าถิ่น อีกเพียงสองนาที มาร์กอส อลอนโซ่ ซัดบอลในเขตโทษ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ตั้งมือรับทว่าดันหลุดมือบอลชนเสาซ้าย ยังดีมี เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ สกัดก่อนปลิ้นเข้าประตู ในนาทีที่ 28 ลอเรนโซ่ อินซินเย่ โยนเตะมุมฝั่งซ้ายมาทางเสาแรก โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ทิ้งตัวโหม่งไร้ตัวประกบ บอลไม่ตรงกรอบออกหลังแบบน่าเสียดาย เจ้าบ้านพลาดช็อตสำคัญนาทีที่ 34 มาร์โก แวร์รัตติ วางบอลออกมาทางขวาของกรอบเขตโทษ เฟเดริโก้ เบร์นาร์เดสคี่ เกี่ยวบอลหาเหลี่ยมซัด อูไน ซิม่อน เซฟได้ทันแม้บอลชนเสาแรก แต่เพื่อนร่วมทีมช่วยเคลียร์ออกหลัง อีกสองนาทีต่อมา เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ ดอดมาปาดบอลเรียด ลอเรนโซ่ อินซินเย่ บรรจงยิงกลางเขตโทษคนเดียว บอลหลุดกรอบประตูด้านขวาแบบไม่น่าเชื่อ จังหวะถัดมา กาบี แข้งดาวรุ่งทีมเยือน ลากบอลลุยมาส่งป้ายไปที่ มิเกล โอยาร์ซาบัล หวดบอลเข้าหากรอบประตู ทว่า จานลุยจิ ดอนนารุมม่า อยู่ถูกตำแหน่งตะครุบสบาย อัซซูรี่ต้องเหลือ 10 คนนาทีที่ 42 เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ พลาดท่าทำฟาวล์กางศอกใส่ต้นคอ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ กรรมการมอบใบเหลืองสองเป็นใบแดง ตะเพิดกัปตันทีมเจ้าบ้านพ้นสนาม แถมทดเจ็บ 45+2 สเปนทิ้งห่างเป็น 2-0 จาก มาร์กอส อลอนโซ่ หยอดบอลเข้าเขตโทษด้านซ้าย ปาโบล ซาราเบีย แปเร็วให้ มิเกล โอยาร์ซาบัล ตักบอลย้อยมาที่ เฟร์ราน ตอร์เรส เทคตัวโขกบอลย้อนศรไปเสาแรกทำ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า หลงทาง ส่งบอลซุกตาข่าย จบครึ่งแรก สเปน ทิ้งห่าง 2-0 

กลับมาต่อครึ่งหลังล่วงเลยถึงนาทีที่ 61 เฟเดริโก้ เคียซ่า กระชากบอลสบโอกาสซัดเต็มแรง บอลถูกมือ อูไน ซิม่อน ปัดได้ก่อนชนเสาด้านขวา กระดอนออกมา เจ้าถิ่นชวดตีสกอร์อีกหน นาทีที่ 63 กระทิงดุหวดเฮอีก กาบี้ ส่งบอลฝากให้ เยเรมี่ ปิโน่ ตัวสำรองวางบอลมาเสาด้านซ้าย มิเกล โอยาร์ซาบัล กระโดดโหม่งบอลหลุดออกข้างกรอบประตูแบบมีลุ้น สเปนเกือบทำได้นาทีที่ 78 เยเรมี่ ปิโน่ เลี้ยงบอลขึ้นมาทางขวา หาจังหวะจ่ายเรียดขวามาให้ มาร์กอส อลอนโซ่ แปทิ่มบอลในเขตโทษ  จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ใช้ความไวพุ่งปัดทิ้งทันเวลา แต่แล้วนาทีที่ 83 กลายเป็นเจ้าถิ่นเบิกสกอร์แทนไล่ตื้นเป็น 1-2 จากจังหวะของ เฟเดริโก้ เคียซ่า ฉกฉวยความผิดพลาดของทีมเยือน ขโมยบอลเคลียร์ทีมจากฝั่งตนเอง ลากเดี่ยวมาถึงเขตโทษ แปะสั้นไปที่ ลอเรนโซ่ เปเลกรินี่ วิ่งตีคู่มายิงเผาขนระยะ 6 หลา พาเจ้าบ้านไล่มาแต่ไม่ทัน จบเกม สเปน บุกชนะ อิตาลี 2-1 เบรกสถิติไร้พ่ายของเจ้าบ้านไว้ที่ 37 นัดติดต่อกัน พร้อมลิ่งรอชิงชนะเลิศ โดยจะพบผู้ชนะระหว่าง เบลเยี่ยม-ฝรั่งเศส ต่อไป 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

อิตาลี : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (GK),โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ (ใบแดง น.42), อเลสซานโดร บาสโตนี่, เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่, นิโกโล่ บาเรลล่า (ดาวิเด้ คาลาเบรีย น.72), จอร์จินโญ่ (ลอเรนโซ่ เปเลกรินี่ น.64), มาร์โก แวร์รัตติ (มานูเอล โลตาเดลลี่ น.58), เฟเดริโก้ เคียซ่า, เฟเดริโก้ เบร์นาร์เดสคี่ (จอร์โจ้ คิเอลลินี่ น.46), ลอเรนโซ่ อินซินเย่ (มอยเซ่ คีน น.58)

สเปน : อูไน ซิม่อน (GK), เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อายเมริค ลาปอร์กต์, เปา ตอร์เรส, มาร์กอส อลอนโซ่, โกเก้ (มิเกล เมริโน่ น.75), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, กาบี (เซร์จี้ โรแบร์โต้ น.84), ปาโบล ซาราเบีย (ไบรอัน กิล น.75), เฟร์ราน ตอร์เรส (เยเรมี่ ปิโน่ น.46), มิเกล โอยาร์ซาบัล