อิตาลี คืนฟอร์มเก่ง!! หลังเหนียว-หน้าคม เฉือนเอาชนะ เบลเยียม ไปแบบสุดมันส์

การแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ชิงอันดับที่ 3 ประจำฤดูกาล 2020-21 ระหว่าง อิตาลี ลงสนามพบกับ เบลเยียม เกมนี้ อิตาลี ลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้าน เบลเยียม มาสู้ในระบบ 3-4-2-1

เกมเริ่มมาได้ 7 นาที เบลเยียม ได้ลุ้นจบสกอร์ก่อน 

จากจังหวะของ มิตชี่ บาตชัวอายี่ พาบอลลุยขึ้นหน้ามาก่อนจะได้ช่องลองกดด้วยขวานอกเขตโทษบอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 18 อิตาลี บุกกดดันอย่างหนัก

จากจังหวะของโดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ลากบอลจากขวาตัดเข้ากลางก่อนจะปั่นด้วยซ้าย แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยังไม่พลาดพุ่งปัดทิ้งออกมาได้แบบหวุดหวิด

นาทีที่ 20 อิตาลี โหมเกมบุกเข้าใส่ต่อเนื่อง 

จากจังหวะของ เฟเดริโก้ เคียซ่า จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ จาโคโม่ ราสปาโดรี่ หลุดเข้าเขตโทษทางฝั่งซ้ายแต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดแนวบล็อกแนวรับ เบลเยียม บอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 32 อิตาลี ยังเป็นฝ่ายเดินเกมบดใส่ เบลเยียม หวังทำประตูขึ้น

จากจังหวะของ นิโคโล่ บาร์เลร่า กระชากบอลจากกลางสนามขึ้นหน้ามาเลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษก่อนจะตัดสินใจกดด้วยขวานอกกรอบบอลยังแรงพุ่งเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 45 อิตาลี น่าจะได้ประตูขึ้นนำสุด ๆ

จากจังหวะของ โดมินิโก้ เบราร์ดี้ เปิดบอลยาวจากกลางสนามไปให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนจะหาจังหวะยิงด้วยขวาแต่บอลยังไปติดปลายมือของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดออกหลังไปได้แบบหวุดหวิด

จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 รูปเกมเป็นทางฝั่ง อิตาลี ที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่าแต่ก็ยังขาดความเฉียบคม ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 46 เริ่มครึ่งหลังมา อิตาลี ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว

จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาบอลเปิดเข้ามาหน้าปากประตูแนวรับ เบลเยียม สกัดบอลไม่ขาดบอลมาเข้าทางของ นิโคโล่ บาร์เลร่า กดด้วยขวาเต็มข้อแบบไม่จับ บอลพุ่งตุงตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม อิตาลี ออกนำ 1-0

นาทีที่ 60 เบลเยียม น่าจะได้ประตูตีเสมอสุด ๆ

จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ มิตชี่ บาตชัวอายี่ หลุดขึ้นมายิงตามน้ำมุมแคบ บอลพุ่งไปชนคานกระดอนออกมาพลาดโอกาสตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 65 อิตาลี มาได้ลูกจุดโทษ 

จากจังหวะของ ติโมธี คาสตาญ ไปทำฟาวล์ใส่ เฟเดริโก้ เคียซ่า ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าและชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนจะเป็น เบราร์ดี้ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด อิตาลี นำห่างเป็น 2-0 

นาทีที่ 77 เบลเยียม เปิดเกมแลก

จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ ได้โอกาสวอลเลย์ด้วยขวาในเขตโทษ แต่ก็ต้องชม จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายด่านชาวอิตาลีที่โชว์ซุปเปอร์เซฟปัดทิ้งออกมาได้หวุดหวิด

นาทีที่ 82 ยานนิค การ์รอาสโก้ พลาดโอกาสสำคัญ

จากจังหวะของ มิตชี่ บาตชัวอายี่ ไหลบอลไปให้ ยานนิค การ์รอาสโก้ ได้วางเท้ายิงเน้น ๆ บริเวณหน้ากรอบเขตโทษด้วยขวาบอลพุ่งไปชนเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 86 เบลเยียม ไม่ยอมแพ้ตามตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1

จากจังหวะของ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ ชาร์ล เดอ แคทเทอเลียร์ หลุดเดี่ยวเข้ามาในเขตโทษก่อนจะได้จังหวะยิงบอลพุ่งลอดขา จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าประตูไปไม่เหลือ เบลเยียม ไล่มา 2-1

จบเกม อิตาลี เอาชนะ เบลเยียม ไปได้ 2-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่ง เบลเยียม ที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ดุดันกว่าในช่วงครึ่งเวลาหลังแต่ก็ยังใช้โอกาสกันเปลือง ทำให้ อิตาลี ที่เฉียบคมกว่าเอาชนะไปได้ในที่สุด ส่งผลให้ อิตาลี คว้าอันดับที่สามไปครองได้สำเร็จ