”อินทรีเหล็ก” ดวลเป้าแม่น!! ทะลุเข้าสู่รอบรองไปได้แบบหืดจับ

การแข่งขันฟุตบอล ฟุตบอล ยูโร ยู-21 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง เดนมาร์ก ลงสนามพบกับ เยอรมัน เกมนี้ เดนมาร์ก ลงเล่นในระบบ 4-3-3 และทางด้าน เยอรมัน  มาสู้ในระบบ 4-2-3-1

เกมเริ่มมาได้เพียง 5 นาที ”อินทรีเหล็ก” ได้เปิดเกมทักทายก่อน

จากจังหวะของ  ดาวิด เราม์ ทพเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดบอลเข้ามาให้ ลูคัส เอ็นเมชา ได้กดด้วยขวาบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 17 เยอรมัน บุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว

จากจังหวะของ รีเดิ้ล บาคู กระชากบอลขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังก่อนจะเปิดบอลมาถึงเสาไกลให้ อาร์เน ไมเออร์ วิ่งมายิงด้วยขวาแต่บอลยังพุ่งไปเข้ามือ โอลิเวอร์ คริสเตนเซ่น รับเอาไว้ได้ไม่ยาก

นาทีที่ 20  “อินทรีเหล็ก” ทิ้งโอกาสทองขึ้นนำ

จากจังหวะของ ดาวิด เราม์ จ่ายขึ้นหน้ามาให้ ลูคัส เอ็นเมชา แตะต่อจังหวะเดียวให้ เมอร์กิม เบริช่า หลุดเข้าไปยิงสวนตัว ฟินน์ ดาห์เมน นายด่านทัพโคนมแต่บอลพุ่งถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 23 โอกาสหนแรกของ เดนมาร์ก ก็เกือบได้ประตูขึ้นนำ 

จากจังหวะของ อันเดรียส โพลเซ่น หลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนปาดมากลางประตูให้ เยสเปอร์ ลินสตรอม วิ่งมายิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเรียดผ่านมือ ฟินน์ ดาห์เมน เฉียดเสาออกไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 42 “อินทรีเหล็ก” โหมบุกหนักต่อเนื่อง

จากจังหวะของ อันทอน สแตค รับบอลจาก โฟลเรียน เวียร์ทซ์ ก่อนจะแต่งบอลหาช่องซัดด้วยซ้ายนอกกรอบ บอลพุ่งเรียดถากเสาไกลไปแบบน่าเสียดาย

จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 รูปเกมเป็นทางฝั่ง เยอรมัน ที่ครองบอลได้เหนือกว่าและสร้างสรรค์จังหวะเข้าทำได้ดุดันกว่าแต่ยังขาดความเฉียบคมต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 49 เดนมาร์ก บุกน้อยแต่ได้เสียว

จากจังหวะของ แมกนัส แอนเดอร์เซน จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ ยาค็อบ บรูน ลาร์เซ่น หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะซัดมุมแคบแต่บอลยังไปติดเซฟของ ฟินน์ ดาห์เมน รับเอาไว้ได้

นาทีที่ 68 เดนมาร์ก ทำเซอร์ไพร์ชิงทำประตูขึ้นนำไปก่อน

จากจังหวะของ คาร์โล โฮลส์ จ่ายบอลมาให้ วาฮิด ฟากฮีร์ พลิกบอลหลบแนวรับอินเหล็กสองคนก่อนได้ช่องยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งแสกหน้า ฟินน์ ดาห์เมน ส่งบอลเข้าซุกก้นตาข่ายไปไม่เหลือ เดนมาร์ก ขึ้นนำไปก่อน 1-0

นาทีที่ 88 เยอรมันมาทวงประตูตีเสมอได้สำเร็จ

จากจังหวะลูกเตะมุมของ คาริม อเดเยมี่ เปิดบอลเข้ามาให้ ลาร์ส ลูคัส ไม ขึ้นโหม่งเช็ดไปเสาไกลให้ ลูคัส เอ็นเมชา ยืนอยู่โล่ง ๆ ยิงเข้าไปไม่เหลือ เยอรมัน ไล่ตีเสมอ 1-1

จบเกม 90 นาที เดนมาร์ก เสมอกับ เยอรมัน ไป 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาทีเพื่อหาผู้ชนะผ่านเข้าไปพบกับ ฮอลแลนด์ ในรอบรองชนะเลิศ

นาทีที่ 93 โอลิเวอร์ คริสเตนเซ่น ยังช่วยเซฟสำคัญเอาไว้ได้

จากจังหวะของ คาริม อเดเยมี่ กระชากพาบอลทะลุขึ้นมาก่อนจะหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่จังหวะยิงไม่ดี ยิงไม่หนีตัว โอลิเวอร์ คริสเตนเซ่น ช่วยเซฟออกมาได้หวุดหวิด

นาทีที่ 101 “อินทรีเหล็ก” มาแซงขึ้นนำจนได้หลังจากบุกอยู่นาน

จากจังหวะที่แนวรับเดนมาร์กเคลียร์บอลไม่ขาดบอลมาเข้าทาง ดาวิด เราม์ เปิดบอลไปเสาสองให้ โยนาธาน เบอร์การ์ดท์ เอาบอลลงก่อนวิ่งไปยิงด้วยซ้ายบอลแฉลบหนีมือ โอลิเวอร์ คริสเตนเซ่น เข้าประตูไปไม่เหลือ เยอรมัน ออกนำ 1-2

นาทีที่ 107 เดนมาร์ก มาได้จุดโทษ

จากจังหวะของ ลาร์ส ลูคัส ไม ไปเข้าสกัดฟาวล์ใส่ กุสตาฟ อิซักเซ่น ล้มลงไปในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที ก่อนจะเป็น วิคเตอร์ เนลส์สัน รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาด เดนมาร์ก ไล่ตีเสมอ 2-2

จบเกม เสมอกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-2 เกมเปิดแลกผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่ตลอดเวลายังหาทีมชนะไม่ได้ต้องมาดวลกันที่จุดโทษ ซึ่งผลปรากฎว่า เยอรมัน ยิงได้แม่นยำกว่าดวลจุดโทษเอาชนะ เดนมาร์ก ไปได้ 6-5 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ จะเข้าไปพบกับ ฮอลแลนด์ ในวันที่ 3 มิถุนายนนี้