อินทรีเหล็ก เฉือนเอาชนะฝอยทอง ไปได้ 1-0 คว้าแชมป์ยุโรปรุ่นเล็กไปครอง!

เกมการแข่งขัน ระหว่างทีมอินทรีเหล็ก ทีมชาติ เยอรมัน กับทีมฝอยทอง ทีมชาติ โปรตุเกส ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี หรือ ฟุตบอลยูโร ยู-21 รอบชิงชนะเลิศ โดยเล่นกันที่สนาม สตาดิโอน สโตซิเซ่, สโลวีเนีย (สนามกลาง)

เกมนี้ ทีมชาติ เยอรมัน ภายใต้การคุมทีมของ สเตฟาน คุนท์ซ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย โฟลเรียน เวียร์ทซ์ เพลย์เมกเกอร์จากเลเวอร์คูเซ่น อาร์เน ไมเออร์ ห้องเครื่องจากบีเลเฟลด์ฉายานิว โทนี่ โครส และ ลูคัส เอ็นเมชา ศูนย์หน้าดาวรุ่งฟอร์มแรงจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ทางฝั่ง ทีมชาติ โปรตุเกส ภายใต้การคุมทีมของ รุย จอร์จ มาเล่นในระบบ 4-1-3-2 นำทีมโดย ดีโอโก้ ดาโลต์ แบ็คขวาจอมบุกจากเอซี มิลาน วิตินญ่า มิดฟิลด์ตัวพลิ้วจากวูล์ฟแฮมป์ตัน และ แดนี่ โมต้า กองหน้าฟอร์มแรงจากมอนซ่า

นาที 2

เปิดฉากเกมมาได้แปปเดียว เป็นทีมชาติ โปรตุเกส ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะของ ดิโอโก้ ดาโลต์ สอดขึ้นมารับบอลที่หน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนสับขาหลอกตัวประกบแล้วกระชากหลบเข้าไปเขตโทษฝั่งขวา ได้ซัดเร็วด้วยขวาเต็มข้อ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่บอลพุ่งเข้าไปเสียบหน้าต่างข้างตาข่ายออกไป อย่างน่าเสียดาย

นาที 8

ฝอยทอง ทีมชาติ โปรตุเกส พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ อับดู คอนเต้ ดันสูง หลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดมาที่เสาแรกให้ ติอาโก้ โทมัส ที่เก็บบอลได้แต่หันหลังให้ประตู ก่อนที่เจ้าตัวจะโชว์ทักษะ พลิกบอลมาหันหน้าหาประตู แล้วตวัดยิงเร็วด้วยซ้ายเต็ม ๆ ผ่านบล็อคแนวรับ เยอรมัน พุ่งกระดอนพื้นหลุดเสาไกลขวามือ ออกหลังไปนิดเดียว

นาที 12

โปรตุเกส ได้ทุ่มบริเวณกรอบเขตโทษด้านขวา ดิโอโก้ ดาโลต์ ได้บอล ก่อนจะเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษ โยกหลบ นิโก้ ฮล็อตเทอร์เบค กองหลังเยอรมันไปหนึ่ง แล้วซัดเร็วด้วยซ้ายยัดเข้าไปที่เสาแรกทันที แต่ อามอส พีเพอร์ กองหลังอีกคน ตามมาช่วยสไลด์ขวางบอลไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 14

โปรตุเกส ยังบุกใส่อย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ อับดู คอนเต้ ดันสูงขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะตั้งป้อมครอสบอลเข้าเขตโทษลึกไปที่เสาไกลข้ามหัว นิโก้ ฮล็อตเทอร์เบค กองหลังเยอรมัน เลยมาถึง ติอาโก้ โทมัส ได้ลอยตัวโขกสะบัดเน้น ๆ แต่บอลเบาและไม่มุมพอ ย้อยไปเข้ามือ ฟินน์ ดาห์เมน ผู้รักษาประตูเยอรมัน ที่เขยิบมารับไว้ได้ อย่างน่าเสียดาย

นาที 15

อินทรีเหล็ก ทีมชาติ เยอรมัน ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะผิดพลาดของ ฟอเรนติโน่ ลูอิส เสียบอลหน้าเขตโทษตัวเอง สุดท้ายเป็น โฟลเรียน เวียร์ทซ์ ลากพาบอลตัดเข้าในมาถึงหัวกระโหลก แล้วกดด้วยซ้ายเต็มข้อไปติดบล็อคแนวรับโปรตุเกส แฉลบเปลี่ยนทางพุ่งแรงหนีมือ ดิโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูโปรตุเกส ไปชนคานอย่างจังกระเด้งลงพื้น ก่อนจะกระดอนออกมา อย่างน่าเสียดาย

นาที 20

เยอรมัน เริ่มตั้งเกมบุกขึ้นมาได้น่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ รีดเล่ บาคู เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะจิ้มบอลแทงทะลุช่องให้ ลูคัส เอ็นเมชา ได้สอดตัดหลังตัวประกบ หลุดมาถึงหน้าเสาฝั่งขวา แล้วพยายามจะตวัดบอลเร็วด้วยขวาให้ข้ามตัว ดิโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูโปรตุเกส แต่นายทวารรายนี้ วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว เอามือปัดบอลออกหลังไปได้ อย่างน่าเหลือเชื่อ

นาที 26

เยอรมัน เริ่มเครื่องติด เป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่มากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ รีดเล่ บาคู เลี้ยงจี้ขึ้นมาทางมุมกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะสับขาหลอกแนวรับโปรตุเกส โยกตัดเข้าในมาเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย แล้วปั่นเน้น ๆ แต่ลื่นเสียหลักนิดนึง บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น เฉียดเสาไกลซ้ายมือออกไปนิดเดียว

นาที 28

เยอรมัน ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้ากรอบเขตโทษของโปรตุเกส จังหวะนี้ อาร์เน ไมเออร์ ได้บอลพลิกมาที่หน้ากรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงอัดด้วยขวาเต็มข้อระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งแรงเป็นจรวด เกือบจะเสียบเสาแรกขวามืออยู่แล้ว แต่ ดิโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูโปรตุเกส โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งมาปัดปลายมือ ออกหลังไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 35

เยอรมัน ได้ฟรีคิกบริเวณกึ่งกลางสนาม เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย อามอส พีเพอร์ เปิดโด่งปั่นโค้ง ลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น นิโก้ ฮล็อตเทอร์เบค กองหลังร่างยักษ์ ที่วิ่งโฉบมาขึ้นโขกคนเดียวเน้น ๆ แต่บอลก็หลุดกรอบเสาซ้ายมือออกไป แถมผู้ตัดสินยังเป่าย้อนว่าเป็นลูกล้ำหน้า ถ้าเข้าก็ไม่ได้ประตูอยู่ดี

นาที 38

โปรตุเกส สวนกลับขึ้นมาทางขวา ดิโอโก้ ดาโลต์ พาบอลขึ้นมาตรงริมเส้น ก่อนจะจ่ายยัดเข้ากลางให้ ฟาบิโอ วิเอร่า ได้แต่งบอลเข้าซ้าย แล้วซัดไกลที่หน้าหัวกระโหลก บอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ฟินน์ ดาห์เมน ผู้รักษาประตูเยอรมัน ไปได้แล้ว แต่เฉียดสามเหลี่ยมซ้ายมือ ออกหลังไปนิดเดียว

นาที 44

เยอรมัน บุกมาทางริมเส้นฝั่งขวา โฟลเรียน เวียร์ทซ์ กระชากหนีตัวประกบมาถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะปาดเลียดมาที่หน้าปากประตูให้ ลูคัส เอ็นเมชา โฉบมาไขว้ยิงที่เสาแรก แต่ยิงวืด บอลไหลเลยมาโดนขาของ ดิโอโก้ เคย์รอซ กองหลังโปรตุเกสเอง แฉลบเปลี่ยนทางเฉียดเสาแรกขวามือออกไปนิดเดียว หวาดเสียวสุด ๆ

นาที 45+1

ท้ายครึ่งแรก ฝอยทองโปรตุเกส น่าจะได้ประตูออกนำ เป็นจังหวะ แดนี่ โมต้า เก็บบอลได้แล้ว พาบอลสวนกลับเร็วขึ้นมา ก่อนจะแทงบอลต่อให้ วิตินญ่า ได้หลุดเข้าเขตโทษไปเดี่ยวกับ ฟินน์ ดาห์เมน ผู้รักษาประตูเยอรมัน แต่เจ้าตัวแต่งบอลหาช่องยิงช้าเหลือเกิน สุดท้ายจ่ายเสีย โดนเคลียร์ทิ้งออกไปได้ อย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

หมดเวลาครึ่งแรก ช่วงแรกของเกมเป็นทางฝั่ง โปรตุเกส ที่บุกใส่อย่างหนัก แต่ทำประตูไม่สำเร็จ แล้วหลังจากนั้นก็เป็นทางฝั่ง เยอรมัน ที่พับสนามบุกอยู่ข้างเดียว สุดท้ายทั้งคู่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้อยู่ดี เสมอกันอยู่ 0-0 !!!

นาที 49 GOAL!!!

เปิดฉากครึ่งหลังมาได้แปปเดียว เป็นอินทรีเหล็ก ทีมชาติ เยอรมัน ที่ได้ประตูออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ รีดเล่ บาคู เลี้ยงจี้ขึ้นมาที่หน้ากรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะแทงบอลทะลุตัดหลังแนวรับให้ ลูคัส เอ็นเมชา วิ่งสอดหลุดกับดักล้ำหน้ามาที่หน้าเสาขวามือ แล้วแตะบอลหลบ ดิโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูโปรตุเกส ไปซัดด้วยขวามุมแคบ เบียดเสาแรกเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 51

โปรตุเกส สวนกลับเร็วขึ้นมาตรงกลาง จังหวะนี้ ฟาบิโอ วิเอร่า เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลบอลไปยังพื้นที่ว่างในเขตโทษฝั่งขวาให้ วิตินญ่า ที่วิ่งสอดตามหลังขึ้นมา ได้วางเท้าปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่ นิโก้ ฮล็อตเทอร์เบค กองหลังเยอรมัน วิ่งตามลงมาสไลด์ขวางบอลไว้ได้ทันเฉียดฉิว ได้เป็นเตะมุม

นาที 55

เยอรมัน สวนกลับขึ้นมาทางซ้าย ซาลีห์ เอิซชาน พาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะไหลมาที่หน้าเขตโทษตรงกลางให้ โฟลเรียน เวียร์ทซ์ ได้วางเท้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ยังพุ่งแรงไปติดบล็อกของ ดิโอโก้ เลเท้ กองหลังโปรตุเกส กระเด้งออกมา เริ่มต้นกันใหม่

นาที 58

โปรตุเกส เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ เหมือนไม่มีอะไร ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม แล้วเป็น ดาเนียล บรากันซา เล่นลักไก่ เห็นนายทวารเยอรมันออกมาไกล เลยซัดบอลด้วยซ้ายเต็มข้อจากกลางสนาม พุ่งแรงลอยโด่งกำลังจะเสียบเสาขวามืออยู่แล้ว แต่ ฟินน์ ดาห์เมน ผู้รักษาประตูเยอรมัน ยังผวาถอยมาปัดปลายมือ ออกหลังไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 59

โปรตุเกส ลุยหนักหวังตีเสมอให้ได้ จังหวะนี้ ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวา ดาเนียล บรากันซา บรรจงโยนบอลโด่งลึกไปที่เสาไกลซ้ายมือ แล้วเป็น ดิโอโก้ เคย์รอซ กองหลังโปรตุเกส ที่สอดขึ้นมาเข้าชาร์จกระโดดดีดบอลด้วยขวา แต่โดนเบียดเลยทำให้โดนบอลไม่ถนัด บอลเบาและไม่หนีมือ ฟินน์ ดาห์เมน ผู้รักษาประตูเยอรมัน ล้มตัวคว้าไว้ได้ทัน

นาที 65

ผ่านไปครึ่งทางของครึ่งหลัง โปรตุเกส พยายามเร่งเครื่องบุกอย่างหนัก แต่ยังเจาะแนวรับเยอรมันไม่เข้า จังหวะนี้ ฟาบิโอ วิเอร่า ได้ลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ แต่บอลก็ยังไปตรงตัวของ ฟินน์ ดาห์เมน ผู้รักษาประตูเยอรมัน นับไว้ได้สบาย

นาที 68

โปรตุเกส ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ฟาบิโอ วิเอร่า ได้เปิดโด่งโค้งลึกไปที่เสาไกลให้ ดิโอโก้ เคย์รอซ ได้โฉบมาโหม่ง แต่ก็ยังไปตรงตัวของ ฟินน์ ดาห์เมน ผู้รักษาประตูเยอรมัน ที่วันนี้ยืนตำแหน่งได้ดี รับไว้ได้เหมือนเดิม

นาที 73

เยอรมัน เกือบจะได้ประตูปิดกล่อง เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วสาดบอลยาวขึ้นมา คาริม อเดเยมี่ ตัวสำรอง สปีดไปเอาบอล ได้เลี้ยงจี้มาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะใช้ความแข็งแกร่งเลี้ยงลุยเบียดเอาชนะ ดิโอโก้ ดาโลต์ หลุดเข้าไปในเขตโทษ ได้ซัดด้วยซ้ายติดขา ดิโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูโปรตุเกส ที่วิ่งออกมาปิดมุม ขวางไว้ได้ทันอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 90

ช่วงท้ายเกม เยอรมัน ยังคุมสถานการณ์ไว้ได้หมด และเกือบบวกสกอร์เพิ่มหลายครั้ง เป็นจังหวะ ลูคัส เอ็นเมชา ได้ส่องไกลนอกกรอบ แต่เฉียดคานไปนิดเดียว และจังหวะติด ๆ กัน คาริม อเดเยมี่ ตัวสำรอง ที่แรงยังดี ได้กระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วกดด้วยซ้ายเน้น ๆ ติดเซฟของ ดิโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูโปรตุเกส เซฟช่วยทีมไว้ได้ทัน

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ เยอรมัน ที่เฉือนเอาชนะ ทีมชาติ โปรตุเกส ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! คว้าแชมป์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ไปครองได้สำเร็จอย่างสมศักดิ์ศรี