การแข่งขันศึกฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 3 ระหว่าง นอริช ซิตี้ ลงสนามพบกับ ลิเวอร์พูล เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-3-3
เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาที “หงส์แดง” ทะยานขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
จากจังหวะลูกเตะมุมของ คอสตาส ซิมิกาส เปิดบอลมาเสาไกลให้ ดิว็อค โอริกี้ ได้ขึ้นโหม่งบอลไปหล่นไม่ห่างตัว ทาคูมิ มินามิโนะ พลิกตัวกดด้วยขวาบอลลอดขา แองกัส กันน์ เข้าไปอย่างเฉียบขาด ลิเวอร์พูล ออกนำ 0-1
นาทีที่ 27 นอริช ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง
จากจังหวะของ คริสตอส โซลิส กระชากพาบอลไปถึงเส้นหลังก่อนจะกึ่งยิงกึ่งผ่านแต่บอลลึกไปเข้ามือ ควีวิน เคลเลเฮอร์ รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 33 เป็นช่วงเวลาบุกของ นอริช
จากจังหวะของ บิลลี่ กิลมอร์ จ่ายบอลสั้น ๆ ไปให้ อดัม ไอดาห์ ได้โอกาสยิงด้วยขวาในกรอบ แต่บอลก็ยังไปตรงตัว ควีวิน เคลเลเฮอร์ รับเอาไว้ได้ไม่มีปัญหา
นาทีที่ 42 นอริชมาได้ลูกจุดโทษ
จากจังหวะของ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ วิ่งตามไปตัดฟาวล์ข้างหลังใส่ ดิมิตริส จานนูลิส ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกเป่าให้จุดโทษทันที ก่อนจะเป็น คริสตอส โซลิส รับหน้าที่สังหารแต่กลับยิงไม่ดีบอลไปติดตัว ควีวิน เคลเลเฮอร์ ช่วยทีมเซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด
จบครึ่งแรก นอริช ตามหลัง ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 0-1 รูปเกมเป็นทางฝั่งของ ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่าแต่ก็ยังขาด ๆ เกิน ๆ ในจังหวะสุดท้ายทำให้สกอร์ยังไม่ห่าง ต้องมาตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง
นาทีที่ 50 “หงส์แดง” มาได้ประตูคลายความกดดัน
จากจังหวะของ โจนส์ จ่ายบอลออกซ้ายไปให้ ซิมิกาส พาบอลไปถึงเส้นหลังก่อนเปิดบอลโค้งเข้าไปให้ ดิว็อค โอริกี้ ขึ้นโหม่งเดี่ยว ๆ บอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูล นำห่าง 0-2
นาทีที่ 52 ลิเวอร์พูล ขึงเกมรุกเอาไว้ได้ต่อเนื่อง
จากจังหวะของ โจนส์ จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ ดิว็อค โอริกี้ หลุดขึ้นมาในกรอบเขตโทษก่อนจะปั่นเรียดทางฝั่งซ้าย แต่บอลพุ่งถากเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 67 ลิเวอร์พูล ยังไม่ผ่อนเกม
จากจังหวะของ ไทเลอร์ มอร์ตัน จ่ายบอลให้ เคด กอร์ดอน ทำชิ่งกับ ดิว็อค โอริกี้ ก่อนบอลสุดท้ายจะเป็น เคด กอร์ดอน ได้วางเท้ายิงนอกกรอบบอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 75 มินามิโนะ พลาดโอกาสสำคัญ
จากจังหวะของ เคอร์ติส โจนส์ ไหลบอลขึ้นหน้ามาให้ ทาคูมิ มินามิโนะ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนจะยิงด้วยขวา แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 80 “หงส์แดง” มาได้ประตูปิดกล่อง
จากจังหวะของ เจ้าบ้านพลาดเสียการครองบอลหน้าประตูจะเป็น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ตัดบอลได้ไหลเร็วไปให้ มินามิโนะ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะยิงมุมแคบส่งบอลเบียดเสาเข้าไปไม่เหลือ ลิเวอร์พูล ทิ้งห่าง 0-3
จบเกม นอริช ซิตี้ แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ไป 0-3 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งลิเวอร์พูลที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างสรรค์จังหวะจบสกอร์ได้น้ำได้เนื้อมากกว่าทำให้เกมนี้ หงส์แดง เอาชนะไปได้ไม่ยาก คว้าตั๋วเข้าไปเล่นในรอบ 4 ต่อไป