เชลซีฟอร์มสุดโหด!! เปิดบ้านไล่ขยี้ เซาธ์แฮมป์ตัน 10 คน ไปแบบสุดมันส์

การแข่งขันศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง เชลซี ลงสนามพบกับ เซาธ์แฮมป์ตัน เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 3-4-2-1  และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 4-4-2

เกมเริ่มมาได้ 9 นาที เชลซี ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 

จากจังหวะลูกเตะมุมของ รูเบน รอฟตัส-ชีก เปิดบอลมาเข้าหัวของ เทรโวห์ ชาโลบาห์ โหม่งเน้น ๆ ส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ เชลซี ออกนำ 1-0

นาทีที่ 21 เซาธ์แฮมตัม เกือบตามตีเสมอได้

จากจังหวะของ ธีโอ วัลค็อตต์ จ่ายบอลไปให้ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ตั้งป้อมกดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งไปเฉียดเสาแรกออกไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 29 เชลซี โหมเกมบุกเข้าใส่

จากจังหวะของ เบน ชิลเวลล์ เติมเกมขึ้นมาก่อนลากตัดเข้าในได้ช่องยิงยัดเสาแรก แต่บอลยังไปเข้าซอง อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ รับเอาไว้ได้ไม่ยาก

นาทีที่ 33 “นักบุญ” ลุยขึ้นมาได้ลุ้นตีเสมออีกครั้ง   

จากบอลเปิดมาหน้าปากประตูให้ ธีโอ วัลค็อตต์ วิ่งตัดหน้า ติอาโก้ ซิลวา โหม่งได้ก่อนแต่โดนบางเกินไปบอลผ่านหน้าปากประตูออกหลังไปหวุดหวิด  

นาทีที่ 36 เชลซี ชวดเม็ดที่สอง

จากจังหวะของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เติมขึ้นมาจ่ายทะลุช่องไปให้ โรเมลู ลูกากู หลุดเข้าเขตโทษมายิงด้วยซ้ายส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือ แต่มีธงจากผู้ช่วยผู้ตัดสินเป่าล้ำหน้าไปก่อน

นาทีที่ 41 แวร์เนอร์ เกือบได้มีชื่อบนสกอร์บอร์ด

จากจังหวะของคัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย เปิดบอลจากทางฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้ขึ้นโหม่งโล่ง ๆ ส่งบอลตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ แต่ผู้ตัดสินเช็ก วีเออาร์ ริบประตูคืนเนื่องจาก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า มีจังหวะไปทำฟาวล์ก่อนหน้านี้ 

จบครึ่งแรก เชลซี ออกนำ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปได้ก่อน 1-0 รูปเกมเป็นทางฝั่ง เชลซี ที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่าอย่างชัดเจนแต่ก็ยังไม่ได้ประตูทิ้งห่าง ต้องมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 59 เซาธ์แฮมป์ตัน มาได้ประตูตีเสมอจนได้

จากจังหวะของ เบน ชิลเวลล์ ไปทำฟาวล์ใส่ วาเลนติโน่ ลีฟราเมนโต้ ล้มลงในเขตโทษทันที ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ก่อนจะเป็น เจมส์ วอร์ด-เพราส์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เซาธ์แฮมป์ตัน ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 

นาทีที่ 72 เชลซี เร่งเครื่องบุกใส่หวังชิงทำประตูขึ้นนำ 

จากจังหวะของ โรเมลู ลูกากู ตอกส้นไปให้ ติโม แวร์เนอร์ ก่อนจะกระชากเข้าเขตโทษหลุดเดี่ยวก่อนยิงด้วยขวาเน้น ๆ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกมาได้หวุดหวิด

นาทีที่ 77 เซาธ์แฮมป์ตัน ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน 

จากจังหวะของ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ไปเข้าหนักใส่ จอร์จินโญ่ ล้มลงไปกองกับพื้นหน้าปากประตูตัวเอง ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเช็ก วีเออาร์ ด้วยตัวเองแล้วกลับมาให้ใบแดงทันทีโดยมองว่าเป็นจังหวะอันตราย เซาธ์แฮมป์ตัน เหลือ 10 คน

นาทีที่ 80 เซลซี ขึงเกมบุกต่อเนื่อง

จากจังหวะของ เมสัน เมาท์น รับบอลก่อนได้โอกาสส่องด้วยขวาในเขตโทษ แต่บอลก็ยังพุ่งไปตรงตัว อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ รับเอาไว้ได้ไม่ยาก

นาทีที่ 84 เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำอีกหน

จากจังหวะของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เติมเกมขึ้นมาสูงก่อนจะรับบอลมาถึงสุดเส้นหลัง เปิดบอลเรียดเข้ากลางไปให้ ติโม แวร์เนอร์ เข้ามายิงส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่พลาด เชลซี พลิกนำ 2-1

นาทีที่ 89 เชลซี มาได้ประตูปิดกล่อง

จากจังหวะของ เมสัน เมาท์น พาบอลหลุดมาถึงสุดเส้นหลังปาดบอลเรียดเข้าไปให้ โรเมลู ลูกากู ยิงบอลพุ่งไปขนเสากระดอนมาเข้าทาง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ซ้ำจ่อ ๆ บอลก็ยังพุ่งไปเสาก่อนเด้งไปเสาไกลเข้าทาง เบน ชิลเวลล์ ยิงโล่ง ๆ บอลพุ่งข้ามเส้นประตูไปแล้ว แม้ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ จะปัดออกมาได้ เชลซี ทิ้งห่าง 3-1

จบเกม เชลซี เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปได้ 3-1 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลได้เหนือกว่าและได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นทำให้พลิกแซงไปได้ท้ายเกม ส่งผลให้ เชลซี มี 16 คะแนนอยู่อันดับที่ 1 และทางด้าน เซาธ์แฮมป์ตัน มี 4 คะแนน อยู่อันดับที่ 17