เชลซี ฟอร์มดุเปิดบ้านยิงยับ!! แลกมาด้วยการสังเวยลูกากู-แวร์เนอร์ เจ็บคู่

การแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอช ระหว่าง เชลซี ลงสนามพบกับ มัลโม่ เกมนี้เจ้าบ้านลงเล่นในระบบ 3-4-2-1 และทางด้านผู้มาเยือนมาสู้ในระบบ 3-5-2

เริ่มเกมมาได้ 5 นาที เชลซี ได้ทักทายก่อน

จากจังหวะของ เมสัน เมาน์ท จ่ายบอลมาให้ โรเมลู ลูกากู หลุดขึ้นหน้ามาในเขตโทษทางฝั่งขวาก่อนจะ ปาดบอลเข้ามาในกรอบให้ ติโม แวร์เนอร์ แหย่เท้าชาร์จแต่บอลหลุดกรอบออกหลังไปแบบไม่น่าเชื่อ

นาทีที่ 8 เชลซี น่าจะมาได้ประตูขึ้นนำสุด ๆ

จากจังหวะของ เมสัน เมาน์ท เปิดบอลมาหน้ากรอบเขตโทษทางฝั่งขวา แนวรับทีมเยือนสกัดไม่ดีบอลมาเข้าทาง โรเมลู ลูกากู ยิงสวนทันทีบอลไปแฉลบหลัง เอริค ลาร์สสัน แนวรับมัลโม่ แต่ โยฮัน ดาห์ลิน ยังไวปัดทิ้งออกหลังไปได้แบบหวุดหวิด

นาทีที่ 9 เชลซี มาได้ประตูทะยานขึ้นนำจนได้

จากจังหวะของ ติอาโก้ ซิลวา ดันเกมขึ้นมาสูงก่อนจะเปิดมาตรงจุดโทษ ก่อนจะเป็น อันเดรียส คริสเตนเซ่น ได้วอลเลย์บอลตามน้ำกระดอนพื้นหนีมือโยฮัน ดาห์ลิน ตุงตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ เชลซี ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 21 เล่นต่อมาได้อีกไม่นาน เชลซี มาได้เม็ดที่สอง

จากจังหวะของ โรเมลู ลูกากู โชว์ความแกร่งเลี้ยงแหวกผู้เล่นทีมเยือน ก่อนจะโดน ลาสเซ่ นีลเซ่น เสียบเต็มข้อเท้าในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันทีก่อนจะเป็น จอร์จินโญ่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือ เชลซี นำห่าง 2-0

นาทีที่ 31 โยฮัน ดาห์ลิน ยังยืนตำแหน่งได้ดี

จากจังหวะของ เมสัน เมาน์ท ตอกส้นคืนหลังไปให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จ่ายบอลมาตรงวงกลมกรอบเขตโทษให้กับ เบน ชิลเวลล์ ได้โอกาสซัดเน้น ๆ บอลยังไปตรงตัว โยฮัน ดาห์ลิน นายด่านทีมเยือนรับเอาไว้ได้

นาทีที่ 41 เกมรุกยังเป็นของ เชลซี

จากจังหวะของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จ่ายบอลต่อไปให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ สปีดมายิงทางฝั่งขวาในเขตโทษ แต่ก็ยังไม่ผ่าน โยฮัน ดาห์ลิน ยืนปิดมุมเอาไว้ได้หวุดหวิด 

จบครึ่งแรก เชลซี ออกนำ มัลโม่ ไปได้ก่อน 2-0 รูปเกมเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองบอลและสร้างโอกาสเข้าทำได้เหนือกว่า จนสามารถกุมความได้เปรียบไปก่อนถึงสองเม็ด ต้องยังมาติดตามลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง

นาทีที่ 48 เชลซี มาได้ประตูเพิ่มอย่างรวดเร็ว

จากจังหวะของ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ลากบอลลุยขึ้นมาจ่ายต่อไปให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ยกบอลหนีตัว อิสมาเอล ดิยาวาร่า นายด่านสำรองมัลโม่ที่ออกมาขวาง แต่บอลก็กลิ้งเข้าประตูไปไม่เหลือ เชลซี ทิ้งห่าง 3-0

นาทีที่ 57 เจ้าบ้านยังไม่ผ่อนเกมบุก

จากจังหวะของ ไค ฮาแวร์ตซ์ จ่ายบอลสั้นไปให้ อันโตนิโอ รือดิงเกอร์ สอดขึ้นมารับบอลในเขตโทษกำลังจะยิง แต่ถูก เอริค ลาร์สสัน ชนล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที  ก่อนจะเป็น จอร์จินโญ่ สังหารเข้าประตูไปไม่เหลือ เชลซี ทิ้งห่าง 4-0

นาทีที่ 62 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เกือบได้มีชื่อบนสกอร์บอร์ด

จากจังหวะของ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย รับบอลก่อนเลี้ยงบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย โยกตัดหาช่องปั่นบอลไปติดเซฟ นายด่านอิสมาเอล ดิยาวาร่า ก่อนบอลจะมาเข้าทาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ซัดเน้น ๆ บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย 

นาทีที่ 81 มัลโม่ ตั้งเกมสู้ไม่ได้

จากจังหวะของ มาร์กอส อลอนโซ่ เปิดบอลทางฝั่งขวา บอลมาถึง เมสัน เมาน์ท ได้ขึ้นโหม่งบอลกดลงพื้นแต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย 

จบเกม เชลซี เอาชนะ มัลโม่ ไป 4-0 เปอร์เซ็นต์การครองบอลเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำได้เหนือกว่าและสร้างสรรค์จังหวะจบสกอร์ได้ดุดันกว่าทำให้เกมนี้ เชลซี เอาชนะไปได้ไม่ยาก ส่งผลให้ เชลซี มี 6 คะแนน อยู่อันดับที่ 2 และทางด้าน มัลโม่ ยังไม่มีคะแนน อยู่อันดับที่สี่ของกลุ่ม