ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เกมนี้ยังคงไร้ เมสซี่ แต่ไม่มีปัญหาเมื่อทีมบุกมาเบียดเอาชนะ แบรสต์ 4-2 คว้าชัย 3 เกมรวดมีเพิ่มเป็น 9 แต้มเต็มนำจ่าฝูงต่อไป ทั้งเกมนี้ อันเดร์ เอร์เรร่า ยิงหนึ่ง-จ่ายหนึ่ง ขณะที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ซัดประตูแรกในฤดูกาลนนี้ได้แล้ว ในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอล ลีก เอิง ฝรั่งเศส เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันนัดสามของฤดูกาล เจ้าบ้าน แบรสต์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “เต็งแชมป์” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ออกสตาร์ทหรูเก็บชัยได้สองนัดติด มี 6 แต้มเต็ม
เปิดฉากเกมครึ่งแรกมาเพียง 4 นาทีแรก ทีมเยือน เปแอสเช เกือบได้ลุ้นขึ้นนำ จากจังหวะต่อบอลกันสวยงาม เริ่มจาก อัชราฟ ฮาคิมี่ ฝากเข้ากลางให้ มาร์โก แวร์รัตติ แทงเร็วให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบด้วยขวาแต่ยังไม่ผ่านเซฟของ มาร์โก บิซ็อต นายด่านของแบรสต์ รูปเกมยังเป็น ปารีสฯ ที่ขึงเกมรุกพับสนามบุกหนักเข้าใส่ นาทีที่ 12 อิดริสซา เกย์ ผ่านบอลให้ ธิโล่ เคห์เรอร์ เติมมาตั้งป้อมซัดระยะไกลแต่บอลเหินคานออกไปไกล อีก 4 นาทีถัดมา เอ็มปั๊ปเป้ เล่นสั้นที่มุมธงกับ ฮาคิมี่ ก่อนที่บอลจะมาถึง เอ็มปั๊ปเป้อีกครั้งแทงเลียดเข้ากรอบให้ มาร์โก แวร์รัตติ สอดมาซัดเต็มแรงเหินคานไปอย่างน่าเสียดาย แบรสต์ นานๆ จะได้ลุ้น นาทีที่ 18 เอร์เรร่า ไปเสียฟาวล์หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ อิยองก้า เอ็มบ็อก จะตะบันฟรีคิกกว่า 25 หลาแต่ปั่นบอลข้ามกำแพงออกหลังไปไกลแบบหมดลุ้น กระนั้น นาทีที่ 23 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ครอสไปติดหัว ชาร์กดงเนต์ เคลียร์มาเข้าทาง อันเดร์ เอร์เรร่า วิ่งมาวอลเลย์นอกกรอบแบบไม่จับบอลพุ่งกระดอนพื้นก่อนเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม นาทีที่ 32 อับดู ดิยัลโล่ พาบอลควบขึ้นมาทางด้านซ้ายเข้าไปในกรอบก่อนหักมาหน้าประตูให้ เอ็มบั๊ปเป้ จับบอลแล้วพลิกตัวซัดด้วยซ้ายไปติดบล็อคแนวรับแบรสต์ อีกนาทีถัดมา ทีมเยือนเกือบได้ลุ้นเม็ดสองอีก คราวนี้ ไวจ์นัลดุม แทงทะลุช่องให้ อัชราฟ ฮาคิมี่ หลุดไปเสาแรกก่อนล็อคหนีแนวรับแล้วปั่นซัดด้วยซ้ายไปติดมือ มาร์โก บิซ็อต อย่างน่าเสียดาย จนแล้วจนรอด นาทีที่ 36 เจ้าบ้านมาสังเวยเม็ดที่สองให้ เปแอสเช บุกมาทิ้งห่าง 2-0 บอลจาก คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วางออกขวาให้ ฮาคิมี่ ที่วันนี้เติมไม่ลงขึ้นโขกชงเข้ากลางให้ ไวจ์นัลดุม ซัดไปติดบล็อคเจ้าถิ่นก่อนบอลจะกระดอนสูงไปเข้าทาง เอ็มบั๊ปเป้ ที่โถมมาโขกบอลผ่านมือนายด่านแบรสต์เข้าไป เป็นประตูแรกของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้อีกด้วย นาทีที่ 42 แฟนบอลเจ้าบ้านมาได้เฮกันลั่นบ้าง หลัง แบรสต์ มาตีไข่แตกไล่ เปแอสเช มา 1-2 จากจังหวะที่ เอ็มปั๊ปเป้ ทำเสียบอลก่อนเจ้าถิ่นสวนกลับเร็วแทงขึ้นหน้าให้ สตีฟ มูนี่ พาบอลเลี้ยงเข้าไปหน้ากรอบก่อนปาดเข้ากลางให้ โรแม็ง แฟฟร์ ไขว้จ่ายเร็วออกขวาให้ ฟร็องค์ โอโนราต์ ทะลุมาซัดเลียดเต็มแรงพุ่งผ่านมือ เกย์ลอร์ นาวาส เข้าไปตุงตาข่าย จบครึ่งแรก แบรสต์ ตามหลัง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-2
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 48 อัชราฟ ฮาคิมี่ ที่วันนี้เติมเกมรุกสุดสะเด่า คราวนี้ได้ลองหวดเต็มข้อแต่บอลก็ยังพุ่งแรงไม่ผ่านมือ มาร์โก บิซ็อต รับไว้ได้ นาทีที่ 68 แบรสต์ ได้ลุ้นตีเสมอหลัง เออร์วิน คาร์โดน่า กระชากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปแต่จังหวะยิงไปติดเซฟ นาวาส กระนั้นแม้ยิงเข้าก็ไม่ได้ประตูหลัง คาร์โดน่า โดนจับล้ำหน้าไปก่อน นาทีที่ 73 กลายเป็น ทีมจากเมืองหลวงมาพังประตูนำห่างเป็น 3-1 บอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุมเลยมาเสาไกล อันเดร์ เอร์เรร่า เก็บบอลได้ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ อิดริสซา เกย์ ลากเข้ามาซัดระยะไกลเกือบ 40 หลาบอลพุ่งติดไซด์ติดปลายมือ บิซ็อต ก่อนเบียดโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม อีก 5 นาทีต่อมา เป็นโอกาสของเจ้าบ้านที่จะได้ลุ้นเม็ดที่สองไล่มา ทว่า โรนาแอล ปิแอร์-กาเบรียล ซัดโล่งๆหน้าประตูไม่ถึง 5 หลาแต่ดันไปตรงตัว นาวาส ที่เซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ เจ้าบ้านไม่ยอมง่าย นาทีที่ 85 ไล่เปแอสเชมาเป็น 2-3 จากจังหวะที่บอลครอสมาเสาไกลถึง สตีฟ มูนี่ ซัลโวผ่านมือ เกย์ลอร์ นาวาส เข้าไปอย่างเฉียบขาด ช่วงทดเจ็บ นาที 90+1 ปารีส มากระทุ้งประตูปิดกล่องให้ทีมเยือนหนีไป 4-2 จากจังหวะสวนกลับเร็ว อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลขึ้นมาก่อนชิ่งกับ ฮาคิมี่ เล่นหนึ่งสองจ่ายจังหวะเดียวกับ ดิ มาเรีย หลุดเข้าไปก่อนกระดกบอลข้ามหัวนายด่านแบรสต์เข้าไปอย่างเหนือชั้น จบเกม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกมาคว้าชัย แบรสต์ 4-2 คว้าชัยสามนัดรวด มี 9 แต้มเต็มนำเป็นจ่าฝูงต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แบรสต์ : มาร์โก บิซ็อต (GK), โรนาแอล ปิแอร์-กาเบรียล (ฌอง-เควิน ดูแวร์น น.86), แบร็งดอง ชาร์กดงเนต์, ลิลิยอง บราสซิเย่ร์, เยเร ยูโรเนน, อิยองก้า เอ็มบ็อก, ฮาริส เบลเกบลา (อูโก้ มักเน็ตติ น.75), ฟร็องค์ โอโนราต์, โรแม็ง แฟฟร์, เออร์วิน คาร์โดน่า (เฌเรมี่ เล ดัวรง น.81), สตีฟ มูนี่
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง : เกย์ลอร์ นาวาส (GK), อัชราฟ ฮาคิมี่, ธิโล่ เคห์เรอร์, เพรสแนล คิมเพมเบ้, อับดู ดิยัลโล่, อิดริสซา เกย์, อันเดร์ เอร์เรร่า, มาร์โก แวร์รัตติ (ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ น.72), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, เมาโร อิคาร์ดี้ (อาร์โนลด์ คาลิมูเอนโด้ น.86), คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (อังเคล ดิ มาเรีย น.81)