เอฟเอ คัพ (รอบ 3) เวลา : 20:30 น. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) -VS- เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (แชมเปี้ยนชิพ) เรตราคา : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อ 2.5

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2564

เอฟเอ คัพ (รอบ 3)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) -VS- เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (แชมเปี้ยนชิพ)

เวลา : 20:30 น.

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 2

เรตราคาไทย : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อ 2.5

ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม

01/11/09 เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 0-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
11/04/10 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
13/11/10 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
03/02/11 เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
22/09/11 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (ลีก คัพ)

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
19/12/20 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
22/12/20 ชนะ อาร์เซน่อล 4-1 (เยือน, คาราบาว คัพ)
26/12/20 ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
03/01/21 ชนะ เชลซี 3-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
06/01/21 ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 (เยือน, คาราบาว คัพ)

เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (แชมเปี้ยนชิพ)
16/12/20 แพ้ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 2-3 (เยือน, แชมเปี้ยนชิพ)
19/12/20 แพ้ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-4 (เหย้า, แชมเปี้ยนชิพ)
26/12/20 เสมอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-0 (เยือน, แชมเปี้ยนชิพ)
29/12/20 แพ้ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 0-4 (เหย้า, แชมเปี้ยนชิพ)
02/01/21 แพ้ แบล็คเบิร์น 0-2 (เหย้า, แชมเปี้ยนชิพ)

สภาพทีมโดยทั่วไป

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ต้องเช็คความฟิตของ อายเมอริก ลาปอร์กต์ ส่วน เอแดร์ซอน โมราเอส, เอริก การ์เซีย และ เฟร์ราน ตอร์เรส ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังกักตัว แต่อาจได้ ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ กาเบรียล เชซุส หายจากควิด-19 กลับมา รวมทั้ง ส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” ฟิตเต็มร้อยกลับมาเป็นตัวจริงพร้อม แฟร์นานดินโญ่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ริยาด มาห์เรซ, โรดรี้ เอร์นานเดซ, เบนฌาแม็ง เมนดี้, เนธาน อาเก้ และ ฟิล โฟเด้น ส่วน เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, อิลคาย กุนโดกัน, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส และ ชูเอา คันเซโล่ อาจได้พัก

เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (แชมเปี้ยนชิพ)
ส่วนทีมเยือน เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เกมนี้มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพียง อเลน ฮาลิโลวิช และยังต้องทดสอบความฟิตของ อดัม เคลย์ตัน, จอช แมคเอคราน และ เจค คล๊าร์ก-ซอลเทอร์ การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 จะมี อิวาน ซานเชซ, ฮาร์ลี ดีน, มักซิม โกแล็ง, อิวาน ซันยิช, โจนาธาน เลโก้ และ ลูคัส ยุทคีวิซ นำทัพ โดยมี สก็อตต์ โฮแกน, ไมเคล คีฟเทนเบลด์, จอร์จ เฟร้นด์, จอน โทราล, เฌเรมี่ เบล่า, มิเกล ซาน โฆเซ่ และ ดาเนียล โครว์ลี่ย์ เป็นตัวสนับสนุน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แซ็ค สเตฟเฟ่น – ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟร์นานดินโญ่, เนธาน อาเก้, เบนฌาแม็ง เมนดี้ – โรดรี้ เอร์นานเดซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น, กาเบรียล เชซุส – เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน”

เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (แชมเปี้ยนชิพ)
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (4-2-3-1) : นีล เอเธอริดจ์ – มักซิม โกแล็ง, ฮาร์ลี ดีน, มาร์ค โรเบิร์ตส์, คริสเตียน พีเดอร์เซ่น – อดัม เคลย์ตัน, อิวาน ซันยิช – อิวาน ซานเชซ, แกรี่ การ์ดเนอร์, โจนาธาน เลโก้ – ลูคัส ยุทคีวิซ

ความน่าจะเป็นของเกม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มระยะหลังกลับมายอดเยี่ยมด้วยการดกวาดชัยเรียบ 5 เกมหลังติดต่อกัน พร้อมกอบโกยชัยรวม 9 เกมจากการลงสนาม 12 นัดหลัง พ่วงผลงานไร้พ่ายยาวนาน 12 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งมีเกมเหย้าแข็งแกร่งวางใจได้ ส่วนทางด้าน เบอร์มิงแฮม ผลงานช่วงหลังยังย่ำแย่อย่างมากจากการแพ้รวด 2 นัดหลังสุด ทำให้เป็นความปราชัยรวมมากถึง 5 ใน 6 นัดหลัง และไม่สามารถคว้าชัยได้เลยตลอด 6 นัดที่ผ่านมา แต่เกมเยือนกลับยังทำได้ดี ทำให้แมตช์นี้ “เรือใบสีฟ้า” กลับมาคืนฟอร์มแล้วจะทุบเก็บชัยจาก “ลูกโลก” ไปได้