มิเกล โอยาร์ซาบัล แม้จะซัดให้ “กระทิงดุ” ขึ้นนำในต้นครึ่งหลังแต่ ทัพตราไก่ มายิงสองเม็ดรวดจาก คาริม เบนเซม่า ที่ปั่นสุดสวยไล่ตีเสมอก่อนช่วงท้ายเกม คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ จะซัดประตูชัยให้ ฝรั่งเศส แซงเอาชนะ สเปน แบบสนุก 2-1 คว้าแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ฤดูกาล 2020-21 ไปครอง
การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2020-21 เมือคืนวันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันในรอบ ชิงชนะเลิศ ระหว่าง สเปน พบกับ ฝรั่งเศส
เปิดฉากเกมครึ่งแรกหกนาทีแรก ปอล ป็อกบา แทงบอลกลางสนามเข้าเขตโทษ คาริม เบนเซม่า สปีดหนีกับดักล้ำหน้า ก่อนแตะบอลหลบนายด่านสเปน ปาดมาหน้าประตู แนวรับคู่แข่งสกัดไว้ได้ ผ่านมานาทีที่ 12 เฟร์ราน ตอร์เรส ได้บอลจ่ายมาที่ ปาโบล ซาราเบีย วิ่งมารับตวัดยิงบอลเบาเข้ามือ อูโก้ โยริส จากนั้นนาทีที่ 32 ฌูลส์ กุนเด้ มีจังหวะให้แฟนตราไก่มีเสียว หลังเจ้าตัวเหมือนทำแฮนด์บอล ทว่ากรรมการเช็ควีเออาร์ แล้วตัดสินไม่เป็นจุดโทษ อีกสิบนาทีต่อมา ราฟาเอล วาราน เหยียดขาเตะบอลทิ้ง แต่เจ้าตัวเกิดอาการบาดเจ็บ จนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเอา ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ทำหน้าที่แทน จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
เรอ่มเกมครึ่งหลังดำเนินถึงนาทีที่ 64 ปอล ป็อกบา ฝืนลากบอลก่อยจ่ายเร็วมาทางซ้าย คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กระชากบอลส่งให้ คาริม เบนเซม่า สอดมาตบเข้ากลางเขตโทษ เตโอ แอร็งน็องเดซ แปข้างเท้าชนคานกระดอนออกนอกเส้นประตู แต่จังหวะต่อเนื่อง กระทิงดุ นำก่อน 1-0 เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ วางบอลยาวมาที่ มิเกล โอยาร์ซาบัล เกี่ยวบอลลงแตะเอาชนะ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ หลุดไปซัดหนีตัวนายด่านฝรั่งเศส ดีใจไม่ทันไร ตราไก่ตีคืนทันควัน 1-1 ปอล ป็อกบา จ่ายบอลให้ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ฝากไปที่ คาริม เบนเซม่า จัดการปั่นบอลโค้งจากทางซ้ายบอลโค้งเสียบตาข่ายสวยงาม สิบนาทีท้ายกลาย เป็น ฝรั่งเศส พลิกแซง 2-1 จาก เลส เบลอส์ เตโอ แอร็งน็องเดซ แทงบอลขนานเส้นไปที่ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดวลเดี่ยว อูไน ซิม่อน ก่อนสับขาหลอกพร้อมยิงสวนส่งบอลซุกประตู กรรมการเช็ควีเออาร์ ยืนยันเป็นสกอร์ ในเขตโทษ ดันตรงมือนายทวารคูแข่งปัดทัน ส่วนตราไก่ มีสิทธิ์ฉีกหนี แต่ หัวหอกเปแอสเช ยิงแป้กไปเอง จบเกม ฝรั่งเศส ชนะ สเปน 2-1 คว้าแชมป์รายการนี้สมัยแรกสำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
สเปน : อูไน ซิมอน (GK), เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อายเมริค ลาปอร์กต์, เอริค การ์เซีย, มาร์กอส อลอนโซ่, กาบี (โกเก้ น.75 ), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, โรดรี้ (ปาโบล ฟอร์นาลส์ น.84.), ปาโบล ซาราเบีย (เยเรมี่ ปิโน่ น.61.), เฟร์ราน ตอร์เรส (มิเกล เมริโน่ น.84 ), มิเกล โอยาร์ซาบัล
ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (GK), ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน (ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ น.43 ), เพรลเนล คิมเพ็มเบ้, แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ (เลโอ ดูบัวร์ น.79.), โอเรเลียง ชูอาเมนี่, ปอล ป็อกบา, เตโอ แอร์กน็องเดซ, อ็องตวน กรีซมันน์ (จอร์แดน แวร์กตูร์ก น.90+2), คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, คาริม เบนเซม่า