ไม่เหลือเค้ายอดทีม! ลิเวอร์พูล แพ้หมดสภาพประเดิม แชมเปี้ยนส์ลีก

สนาม: ตาดิโอ ดีเอโก้ อาร์มานโด้ มารา โดน่า

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2022-23 รอบแบ่งกลุ่ม คืนวัน พุธที่ 7 กันยายน รอบแรกของกลุ่ม เอ เป็นการพบกันของทางเจ้าบ้าน นาโปลี เกมนี้เปิดสนามรับการมาเยือนของยอดทีมจากเกาะอังกฤษ อย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล

เกมเริ่มต้นมาได้แค่ 40 วินาที ทัพหงส์แดงที่ยังตื่นสนามเกือบจะเสียประตู จากจังหวะหลุดเดียวของ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ที่หลุดเดี่ยวเข้าไปหลบ อลีสซง แต่มันไม่เหลือมุมให้ยิงแล้ว

นาทีที่ 5 เจ้าบ้านได้เฮกันลั่นสนามก่อน จากจังหวะที่ มิลเนอร์ กัปตันทีมหงส์แดง ไปทำฟาวล์ที่จุดโทษด้วยการทำแฮนด์บอล ทางเจ้าบ้านส่ง ซีลินสกี้ มาสังหารเข้าประตูไป นาโปลี ขึ้นนำไปก่อน 1-0

นาทีที่ 17 ลิเวอร์พูล มาเสียจุดโทษอีกครั้งจากการทำฟาวล์ของ ฟาน ไดค์ ที่รอบนี้ โอซิมเฮน รับหน้าที่สังหารเอง แต่โชคไม่ดีที่บอลไปติดเซฟ อลีสซง

นาทีที่ 22 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสน่าลุ้นอีกครั้งจากการยิงฟรีคิกของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แต่บอลไปติดเซฟปลายมือของ เมเร็ต ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านออกไป

กองหลังของ ลิเวอร์พูล มาพลาดกันอีกในนาทีที่ 31 ฟร้องค์ ซัมโบ้ อองกิสซ่า ทำชิ่งกับ ซีลินสกี้ ก่อนที่จะซัดประตูผ่านมือของ อลีสซง ไปตุงตาข่าย นาโปลี ขยับเพิ่มไปเป็น 2-0

ถัดมาสามนาที ลิเวอร์พูล ก็มีลุ้นอีกจังหวะจากจังหวะโยนบอลของ เทรนท์ ไปให้ ฟาน ไดค์ ได้โขกบอลกระดอนพื้น แต่ทาง อเล็กซ์ เมเร็ต ยังไวพอปัดออกไปได้

นาทีที่ 44 ลิเวอร์พูล ก็โดนไปอีกเม็ด จากจังหวะเติมของ ควารัตสเคเลีย ที่เติมทางฝั่งขวาแล้วไหลต่อให้ ซิเมโอเน่ ยิงโล่งๆ เจ้าบ้านนำห่าง 3-0

จบครึ่งแรก นาโปลี 3 ลิเวอร์พูล 0

เริ่มเกมมาได้ไม่นาน ในนาที 47 ซีลินสกี้ มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงเน้นๆ แต่บอลก็ยังติดเซฟของ อลีสซง ทว่าโชคไม่ดีที่บอลมันยังกลิ้งไปเข้าทางของ ซีลินสกี้ ที่ยืนรอซ้ำเข้าไปเป็น 4-0

นาทีที่ 49 ลิเวอร์พูล มาตีไข่แตกได้สำเร็จจากการยิงของ หลุยส์ ดิอาซ ที่ลากจี้เข้ากรอบเขตโทษแล้วปั่นด้วยขวานอกกรอบ ผ่านมือของ เมเร็ต เข้าไปงามหยดย้อย ลิเวอร์พูล ตามมาเป็น 4-1

ช่วงครึ่งหลัง คล็อปป์ พยายามแก้เกมด้วยการส่งนักเตะมาเติมเกมรุกไม่ว่าจะเป็น อาร์ตูร์ เมโล่, ดาร์วิน นูนเญซ, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ โชต้า ลงสนาม แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเจ้าบ้านได้

จบเกม นาโปลี 4 ลิเวอร์พูล 1

นาโปลี (4-2-3-1) : อเล็กซ์ เมเร็ต – โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ (กัปตันทีม), คิม มิน-แจ, อาเมียร์ ราห์มานี่, มาธีอัส โอลิเวร่า (มาริโอ รุย น.74)  – อองเดร-ฟร้องค์ ซัมโบ้ อองกิสซ่า, สตานิสลาฟ โลบอตก้า – มัตเตโอ โปลิตาโน่ (เออร์วิง โลซาโน่ น.58), ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ (เอลยิฟ เอลมาส น.74), ควิช่า ควารัตสเคเลีย (อเลสซิโอ เซอร์บิน น.57) – วิคเตอร์ โอซิมเฮน (โจวานนี่ ซิเมโอเน่ น.41)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ (โฌเอล มาติป น.46), เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (อาร์ตูร์ น.77), ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ (กัปตันทีม) (ติอาโก้ อัลกันตาร่า น.63) – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ดีโอโก้ โชต้า น.63), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ดาร์วิน นูนเญซ น.63), หลุยส์ ดิอาซ